นักวิเคราะห์ในสิงคโปร์คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวลงในสัปดาห์หน้า หลังจากตลาดบางแห่งดีดตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญและก่อนที่บริษัทหลายแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการ ซึ่งนักลงทุนจะนำข้อมูลเหล่านี้มาประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
"นักลงทุนจะระมัดระวังการซื้อขายในสัปดาห์หน้าก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยผลผลิตอุตสาหกรรมประจำเดือนม.ค.ในวันศุกร์ อีกทั้งตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและข้อมูลเงินเฟ้อในวันพุธ และก่อนที่บริษัทฮิวเล็ต-แพคการ์ดและบริษัทวอล-มาร์ทจะเปิดเผยผลประกอบการในวันอังคาร" นายลี ซัค-จิน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ซัมซุงกล่าว
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐได้ฉุดตลาดหุ้นทั่วเอเชียดิ่งลงในวันนี้ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะซบเซาลงอีกและคาดว่าจะมีสถาบันการเงินอีกหลายแห่งที่ขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนอง
ขณะที่นักวิเคราะห์จากธนาคารยูโอบีกล่าวว่า "นอกเหนือจากแถลงการณ์ของเบอร์นันเก้แล้ว นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะของบริษัทประกันหุ้นกู้ หลังจากมีข่าวว่ามูดีส์เตรียมลดอันดับเครดิตบริษัทเอ็มบีไอเอและบริษัทแอมแบคในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่ประกาศลดอันดับเครดิตบริษัทไฟแนนเชียล การันตี อินชัวรันซ์ไปเมื่อวานนี้ โดยมูดีส์มองว่า แม้สถานะของบริษัทแอมแบคและบริษัทเอ็มบีไอเอเริ่มดีขึ้น แต่มูดีส์ยังคงพิจารณาเรื่องการปรับลดเครดิตของทั้งสองบริษัท"
ด้านนายเอเดรียน โมวัต นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนในฮ่องกงประเมินว่า "ตลาดหุ้นเอเชียอาจดิ่งลงถึงก้นเหวแล้ว ซึ่งตามกลไกก็จะรีบาวด์ เราคาดว่านักลงทุนจะเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นไทย จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกันคาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะรีบาวด์ในช่วงครึ่งปีหลังหากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกและหากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐสามารถพยุงเศรษฐกิจสหรัฐได้รอดพ้นจากภาวะถดถอยได้"
"เรายังคงมีมุมมองในด้านบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียในปีนี้" นายโมวัตกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์:
[email protected]