วันนี้เงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย มองว่าช่วงนี้ตลาดยังนิ่งๆ แม้วันนี้ ครม.จะอนุมัติมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ 3.16 แสนล้านบาทออกมาก ก็ไม่ได้ส่งผลต่อทิศทางของค่าเงินบาทมากนัก เชื่อว่าเป็นเพราะตลาดรับข่าวนี้ไปแล้วจาก การอนุมัติของ ครม.เศรษฐกิจ ในสัปดาห์ก่อน
"บาทวันนี้แข็งค่าจากเช้าแค่ 4-5 สตางค์ มี flow เข้ามา แต่ก็ไม่ได้มีผลมากนัก ส่วนที่ ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจวันนี้ ก็ไม่ได้มี effect มาก เพราะตลาดคงรับข่าวไปตั้งแต่รอบที่ ครม.เศรษฐกิจอนุมัติแล้ว" นักบริหารเงินระบุ
ปัจจัยสำคัญสำหรับสัปดาห์นี้ที่นักลงทุนรอติดตาม คือ การประชุมวิชาการแจ็คสัน โฮลล์ ที่จะมีประธานธนาคารกลางสหรัฐ มากล่าวสุนทรพจน์
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.70-30.95 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.1050 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.56 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1070/1090 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1085 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,625.57 จุด ลดลง 11.69 จุด (-0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 56,867 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,982.47 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุม ครม.อนุมัติชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 3.16 แสนล้านบาท คาดช่วยดัน GDP ปีนี้ให้โตไม่ต่ำกว่า 3%
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสเติบโตได้
สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเสถียภาพเศรษฐกิจในประเทศนั้น คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ จะอยู่ที่ 1% ลดลงจากปีก่อน ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีทิศทางลดลง ขณะที่เสถียภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะ เกินดุล 33.3 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 6.1% ของ GDP
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน เปิดเผยว่าไม่สนับสนุนให้เฟดปรับลดดอกเบี้ย เพราะการปรับลด
- มอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ของฮ่องกงจะมีความผันผวนมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังคงแห่
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงินจำนวน 5 หมื่นล้านหยวนเข้าสู่ระบบ ผ่านทางข้อตกลง reverse repo