(เพิ่มเติม) ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.ค.ลดลงจากมิ.ย. รับผลส่งออกชะลอ-ภัยแล้ง จี้รัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.-เร่งเบิกจ่ายงบฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 22, 2019 12:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนก.ค.อยู่ที่ ระดับ 93.5 ปรับตัวลดลงจากระดับ 94.5 ของเดือนมิ.ย. โดยเป็นการปรับตัวลดลงในองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ

จากการสำรวจพบว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในเดือนก.ค. 62 มีสาเหตุมาจากการส่งออกที่ชะลอตัว เป็นผลมาจากสงครามการค้าที่ยังคงยืดเยื้อ สะท้อนจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขายในต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่กระทบต่อกำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศ ขณะที่ภาครัฐยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้น

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 102.3 โดยเพิ่มขึ้นจาก 101.3 ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากผู้ประกอบการคาดว่าภาครัฐจะมีมาตรการเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการใช้จ่ายและการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2562 อีกทั้งผู้ประกอบการเห็นว่าจะมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อส่งมอบในช่วงปลายปี

"ถึงแม้ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.62 จะปรับตัวลดลง แต่ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว และบรรดารัฐมนตรีแต่ละคนต่างเร่งเดินหน้าทำงาน" นายสุพันธุ์ กล่าว

ด้านข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ 1. เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและการลงทุนภายในประเทศและมาตรการช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานรากและผู้ประกอบการ SMEs

2.เร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2562 ในส่วนที่ยังล่าช้าอยู่ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ หากมีการนำไปใช้จับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค

"ถ้าทำให้การใช้จ่ายหมุนหลายรอบยิ่งดี คิดว่าจะช่วยกระตุ้นจีดีพีให้โตอีก 0.5% ได้ แต่ต้องเอาไปซื้อของนะ ไม่ใช่เอาไปใช้หนี้" นายสุพันธุ์ กล่าว

สำหรับตัวเลขส่งออกในเดือน ก.ค.62 ที่กระทรวงพาณิชย์แถลงเมื่อวานนี้เป็นบวก แต่เมื่อเข้าไปดูในรายละเอียดแล้วเป็นการส่งออกทองคำถึง 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเมื่อหักทองคำออกไปแล้วจะส่งผลให้การส่งออกหดตัวลง 0.4% ซึ่งไม่อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนิ่งนอนใจ

ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นผลดีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเพิ่มอำนาจการซื้อให้กับคนรากหญ้า ทั้งผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ แต่ประเด็นสำคัญคือ รัฐบาลต้องเร่งเบิกจ่ายให้รวดเร็วจะช่วยให้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ