พาณิชย์ เผย ส.ค.62 อนุญาตต่างชาติลงทุนในไทย 13 ราย เม็ดเงินลงทุนกว่า 5.2 พันลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 29, 2019 11:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ได้อนุญาตให้คนต่างชาติ 13 รายประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลงจากเดือนก่อน 12 ราย คิดเป็น 48% โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 5,212 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 282 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน

ขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 1,721 ล้านบาท คิดเป็น 49% เนื่องจากมีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง คือ บริการออกแบบทางวิศวกรรม และบริหารจัดการโครงการปลดประจำการเรือผลิตและเก็บปิโตรเลียม บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกชนิดโพลีโพรพิลีน เป็นต้น

สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ 1.ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 5 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสวีเดน มีเงินลงทุนจำนวน 35 ล้านบาท อาทิ บริการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตเส้นใยสังเคราะห์และเส้นใยธรรมชาติ, การทำกิจการบริการทางบัญชี, บริการให้เช่าพื้นที่อาคารโรงงานบางส่วน พร้อมทั้งสาธารณูปโภค, บริการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสถานะเศรษฐกิจ การตลาด การลงทุน และความต้องการใช้สินค้า

2.ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 5 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ และฮ่องกง มีเงินลงทุนจำนวน 4,763 ล้านบาท อาทิ บริการให้ใช้ระบบบริหารจัดการในการติดตามและตรวจสอบสถานะของรถยนต์, บริการให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์, บริการให้เช่าแท่นสำหรับเสริมความแข็งแรงตัวถัง อุปกรณ์จับยึด, บริการให้เช่าเครื่องควบคุมการให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ เครื่องฟอกเลือดฟอกไต เครื่องนำร่องศัลยกรรมกระดูก, บริการให้บริการเกมส์ออนไลน์และเกมส์โมบาย

3.ธุรกิจค้าส่ง จำนวน 1 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศจีน มีเงินลงทุนจำนวน 24 ล้านบาท คือ การค้าส่งสารเคมีประเภทก๊าซไวไฟ ก๊าซไม่ไวไฟและไม่เป็นพิษ ก๊าซพิษ

4.ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาเอกชน จำนวน 2 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศเกาหลีใต้ และจีน มีเงินลงทุนจำนวน 390 ล้านบาท คือ บริการออกแบบทางวิศวกรรม และบริหารจัดการโครงการปลดประจำการเรือผลิตและเก็บปิโตรเลียม, บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกชนิดโพลีโพรพิลีน

"การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับวิศวกรรมและขั้นตอนในการปลดระวางเรือผลิตและเก็บปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งและทดสอบการทำงานของเครื่องจักรในการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีระบบการติดตามและตรวจสอบสถานะของรถยนต์ องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI กับการประยุกต์ใช้ในงานบัญชี องค์ความรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ความรู้ด้านโพลิเมอร์และสิ่งทอเพื่อใช้ในงานวิจัยและพัฒนา เป็นต้น" นายวุฒิไกร กล่าว

ขณะที่ในช่วง 8 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.62) มีคนต่างด้าวได้รับใบอนุญาตจำนวน 137 ราย ลดลง 41 ราย หรือคิดเป็น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 21,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,628 ล้านบาท หรือ 148% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปี 62 มีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการงานวิศวกรรม การจัดหา ติดตั้ง และทดสอบการใช้งานของระบบเครื่องบดดินหรือหินกึ่งเคลื่อนที่โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ บริการออกแบบ จัดซื้อจัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ รวมทั้งการแก้ไขความชำรุดบกพร่องและบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงิน บริการออกแบบทางวิศวกรรม และบริหารจัดการโครงการปลดประจำการเรือผลิตและเก็บปิโตรเลียม เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ