นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.60/61 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.67 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น จากที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เป็นผลจากตัวเลข PMI ออกมาไม่ค่อยดี ในขณะที่ทิศทางเงิน บาทวันนี้คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่มีแนวโน้มแข็งค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.55-30.65 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (3 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.32477% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.27382%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.6025 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.03/06 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 106.05 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0973 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0973/0979 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.6610 บาท/ดอลลาร์
- กรมบัญชีกลางเร่งหน่วยงานราชการเบิกจ่ายงบปี'62 ไฟเขียวก่อหนี้ผูกพันได้ มั่นใจใช้ตามออเดอร์ ครม.เกือบ 100% พบ
งบประจำเบิกแล้ว 93% งบลงทุนแค่ 60% สั่งเตรียมพร้อมใช้งบปี'63 มั่นใจจัดทำล่าช้าไม่ส่งผล เบิกได้ทันตามกรอบเวลา
- สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศก.ปรับประมาณการทั้งปีของผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตร (จีดีพี
ภาคเกษตร) เหลือ 2-2.3% จากเดิม 3.0-3.5% และเติบโตน้อยกว่าปีก่อนที่ 4.6% สาเหตุจากสถานการณ์ภัยแล้ง และน้ำท่วมในภาค
เหนือ ภาคอีสาน ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย
- รัฐบาลให้ซักฟอกวันเดียว 18 ก.ย. อภิปรายจบปิดสมัยประชุมสภาทันที มติครม.เคาะ-อ้างวันอื่นติดภารกิจ
- สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ รวมทั้งสมาชิก 21 รายที่แปรพักตร์จากพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรค
รัฐบาล ประสบความสำเร็จในการลงมติด้วยคะแนนเสียง 328 ต่อ 301 เสียง ในการเข้าควบคุมกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา ความ
พ่ายแพ้ของพรรครัฐบาลจะทำให้ฝ่ายค้านสามารถสกัดความพยายามของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี ในการนำอังกฤษแยกตัวออกจาก
สหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 31 ต.ค. โดยไม่มีการทำข้อตกลง
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลัง
จากลดลง 0.7% ในเดือนมิ.ย. ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค.
- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต
ของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 จากระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. โดยได้รับ
ผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.)
เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ
3 ปี ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นหลังจากพรรครัฐบาลของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้สูญเสียเสียงข้างมากในสภา ซึ่งทำให้
นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไม่มีข้อตกลง
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในนรอบกว่า 6 ปีเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อ
ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวลง ซึ่งได้ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก นอกจากนี้ การอ่อนค่า
ของสกุลเงินดอลลาร์ยังเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ
- ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.ค., ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือน
ส.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)
ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาค
โรงงานเดือนก.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.
- นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยรายงานล่าสุดระบุว่า
สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ รวมทั้งสมาชิก 21 รายที่แปรพักตร์จากพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ประสบความ
สำเร็จในการลงมติด้วยคะแนนเสียง 328 ต่อ 301 เสียง ในการเข้าควบคุมกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา โดยความพ่ายแพ้ของพรรค
รัฐบาลในครั้งนี้ จะทำให้ฝ่ายค้านสามารถสกัดความพยายามของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี ในการนำอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพ
ยุโรปในวันที่ 31 ต.ค. โดยไม่มีการทำข้อตกลง
- ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า มีแนวโน้ม 80% ที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.20% และประกาศ
รื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 12 ก.ย. เพื่อกระตุ้น
เศรษฐกิจยูโรโซน