พาณิชย์คุมเข้มนิติบุคคลแจ้งประเภทธุรกิจไม่ตรงความเป็นจริง เล็งเปรียบเทียบปรับ-ส่งดำเนินคดี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 4, 2019 11:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญกับข้อมูลที่ผู้ประกอบธุรกิจแจ้งไว้ในการขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด โดยเฉพาะการระบุข้อมูลประเภทธุรกิจ (วัตถุประสงค์) และสถานที่ตั้งสำนักงาน นำไปสู่ข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ เพื่อประโยชน์ในการนำข้อมูลไปใช้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกประกาศแจ้งเตือนผู้ประกอบการ หากเจตนาระบุข้อมูลที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง อาจเข้าข่ายเป็นการแจ้งความอันเป็นเท็จต่อทางราชการ

ทั้งนี้ จากกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจได้จดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด แต่ไม่ได้ระบุข้อมูลประเภทธุรกิจ (วัตถุประสงค์) และสถานที่ตั้งสำนักงานให้ถูกต้องและตรงกับความเป็นจริง ส่งผลต่อหน่วยงานราชการอื่นที่เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมฯ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการให้บริการประชาชน ตามมาตรการอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน โดยการไม่เรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้ตามนโยบายรัฐบาล และบางกรณีอาจทำให้เกิดปัญหาหรือข้อพิพาทระหว่างธุรกิจขึ้นภายหลัง

อีกทั้ง ปัจจุบันโลกกำลังเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ การบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน และเชื่อถือได้ เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐสามารถนำข้อมูลไปใช้บริการประชาชนและธุรกิจได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว อันจะนำไปสู่การบริหารจัดการข้อมูลภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ และเดินหน้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว

"จากนี้ กรมฯ จะกำกับการจดทะเบียนให้มีความถูกต้องควบคู่กับการอำนวยความสะดวก โดยจะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น" รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าว

พร้อมระบุว่า ล่าสุดนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกประกาศกรมฯ เรื่อง การระบุข้อมูลประเภทธุรกิจ (วัตถุประสงค์) และสถานที่ตั้งสำนักงานให้ตรงกับข้อมูลที่แท้จริง ในการยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด พ.ศ. 2562 โดยมีสาระสำคัญ คือ ให้ผู้ขอยื่นจดทะเบียนธุรกิจต้องระบุข้อมูลประเภทธุรกิจ (วัตถุประสงค์) ในแบบ สสช.1 และสถานที่ตั้งสำนักงานให้ถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริงที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจ

โดยกรมฯ จะติดตาม ตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของข้อมูลการจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลประเภทธุรกิจ (วัตถุประสงค์) ที่ผู้ขอจดทะเบียนธุรกิจได้ระบุในแบบ สสช.1 และสถานที่ตั้งสำนักงานที่ได้แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งหากพบว่ามีเจตนาที่จะระบุข้อมูลไม่ตรงต่อความเป็นจริง อาจเข้าข่ายเป็นการแจ้งความอันเป็นเท็จต่อทางราชการได้

"ดังนั้น จึงขอความร่วมมือภาคธุรกิจที่ต้องการดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล ให้ระบุข้อมูลประเภทธุรกิจ (วัตถุประสงค์) ในแบบ สสช.1 และสถานที่ตั้งสำนักงานให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง เพื่อประโยชน์ทั้งต่อตัวธุรกิจเอง ต่อหน่วยงานภาครัฐ และการนำข้อมูลไปใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ" นายพูนพงษ์กล่าว

โดยหลังจากนี้ หากมีการดำเนินการที่เข้าข่ายกระทำการฝ่าฝืนอันเป็นความเท็จ เบื้องต้น อาจดำเนินการเปรียบเทียบปรับ และหากยังเพิกเฉยมิได้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องอาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ