ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.50 แข็งค่าจากวานนี้เล็กน้อย มองกรอบวันนี้ 30.45-30.55 ตลาดจับตาตัวเลขส่งออกไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 20, 2019 09:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.50 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ ปิดตลาดที่ระดับ 30.52 บาท/ดอลลาร์

"แข็งค่าเล็กน้อยจากวานนี้...เมื่อวานดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเยนและยูโร เนื่องจากมีแรงขายดอลลาร์หลังเฟดมีมติไม่ เป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา ขณะที่วันนี้ต้องรอดูตัวเลขนำเข้า-ส่งออกของไทยเพราะจะมีผลต่อการประชุม กนง." นักบริหาร เงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 30.45 - 30.55 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (19 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.44830% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.39509%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.91 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 108.04 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1050 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1066 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.5700 บาท/ดอลลาร์
  • สำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ประจำ
เดือน สิงหาคม 2562
  • ครม.เศรษฐกิจลุยถกเข็นโครงการลงทุนคมนาคม หวังปลดล็อกลงทุนได้รวดเร็ว คาด ต.ค.ลุยพิจารณามาตรการกระตุ้นส่ง
ออก-ท่องเที่ยว
  • สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มา
อยู่ที่ 1.75 - 2% ทำให้นักลงทุนผิดหวังเพราะคาดว่าจะลดมากกว่านี้ และยังไม่ส่งสัญญาณผ่อนคลายเพิ่มเติม ส่วนการประชุมคณะกรรมการ
นโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% เพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจภายหลังจากรัฐบาล
ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าจะได้ผลหรือไม่ แต่หากพบว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ชะลอตัวลง และการส่งออกยังมีปัญหา
เชื่อว่าในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. กนง.อาจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้
  • ไทยพาณิชย์ ประกาศยกเลิก "ค่าธรรมเนียม" บนดิจิทัลให้ ลูกค้าเอสเอ็มอี ทั้งค่าฟีโอนข้ามเขต ธุรกรรมเช็ค บาทเน็ต
ผ่าน "มณี Free Solution" พร้อมให้ดอกเบี้ยบัญชี กระแสรายวัน 1% ยอมรับกระทบรายได้ปีละกว่า 100 ล้าน แต่มั่นใจส่งผลดี ระยะ
ยาว หนุนฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น อีก 1 แสนรายในปีหน้า
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะออกมาตรการ
ป้องกันหนี้ครัวเรือน ด้วยการไม่ให้มีโปรโมชั่น 0% ว่า ถือว่าดีเพราะทำให้คนที่ซื้อสินค้าซื้อเฉพาะสิ่งที่อยากได้ โดยไม่ได้มองว่าซื้อเพราะ
โปรโมชั่น โดยขณะนี้ระดับหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ซึ่งตัวเลขหนี้ 78.5% ถ้าตัดหนี้ธุรกิจออกไปจะเหลือ 65% ไม่ใช่เป็นระดับที่น่า
ตระหนก และใน 65% ส่วนใหญ่เป็นหนี้มีหลักประกันบ้าน รถยนต์ กว่า 50% โดยหนี้เสียของหนี้ครัวเรือนอยู่ระดับ 3% ถือว่าปกติไม่ได้สูง
กว่าหนี้ทั่วไป ซึ่งระดับหนี้ครัวเรือนอยู่ในสัดส่วนนี้มานานกว่า 10 ปี
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เปิดเผยว่า ยอมรับหนักใจตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้
เห็นตัวเลขอัตราการเติบโต อยู่ที่ประมาณ 5-6% ต่อปีและอาจจะไม่เห็นการเติบโตที่ 10% อย่างในอดีต เพราะนอกจากปัจจัยด้าน
เศรษฐกิจโลก อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่า ส่งผลต่อการตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยแล้วยังมีเรื่องประเทศคู่แข่งด้านการท่องเที่ยว
ของไทยในละแวกใกล้เคียงที่พร้อมทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อสนับสนุนตัวเลขนักท่องเที่ยว ขณะที่ ททท.กลับถูกตัดงบประมาณปี 2563 ลง
1,000 ล้านบาท
  • สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 1.3% สู่ระดับ 5.49
ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของ
สหรัฐลดลง 5.9% สู่ระดับ 1.282 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 จากระดับ 1.362 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1
  • Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ทรงตัวในเดือนส.ค.
โดยอยู่ที่ระดับ 112.1 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอ
สวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 208,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่
ระดับ 213,000 ราย
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.)
หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านมือสองและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น
เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยมีการทำข้อตกลงกับบรรดาผู้นำสหภาพยุโรป
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการ
ประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทำกำไรหลัง
จากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
  • ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ กล่าวว่า บิตคอยน์จำเป็นต้องมีการควบ
คุมทางกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น ก่อนที่จะสามารถทำการซื้อขายในตลาดขนาดใหญ่ และนักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังในขณะนี้
  • องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุว่า การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ฉุด
การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี

ทั้งนี้ OECD ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สู่ระดับ 2.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการ เงินในปี 2551-2552 จากระดับ 3.6% ในปีที่แล้ว

  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้ โดย BoE มีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้คง
อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ท่ามกลางความเสี่ยงที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
  • นักวิเคราะห์จากธนาคารเอเอ็นแซด ระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะมีการขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่
ระดับ 6% ในไตรมาส 3
  • สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยว่า สหรัฐและจีนได้จัดการเจรจาระดับรัฐมนตรีช่วยเพื่อหารือในประเด็น
การค้าเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องระหว่างสองประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ