คลัง เผย 3 วันแรกมีคนใช้สิทธิมาตรการ "ชิมช้อปใช้" 370,523 ราย ยอดรวม 294 ลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 30, 2019 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 8 วันแรกมีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิมาตรการ "ชิมช้อปใช้" เต็มตามโควตา 1 ล้านรายทุกวัน โดยระบบจะใช้เวลาตรวจสอบ 3 วันทำการ และเมื่อได้รับ SMS แจ้งสิทธิ์และยืนยันตัวตนในแอพพลิเคชัน "เป๋าตัง" แล้ว จะสามารถใช้สิทธิ์ได้ในวันถัดไป

การยืนยันตัวตนนั้นเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้ให้มั่นใจว่าจะไม่มีผู้อื่นใช้สิทธิของท่าน หากสแกนใบหน้า 3 ครั้งแล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ สามารถไปยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงไทย (KTB) ทั้งนี้การใช้งานแอพพลิเคชัน "ถุงเงิน" และ "เป๋าตัง" ขอให้เปิด location ทุกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีการไปใช้สิทธิ์ในจังหวัดที่เลือกจริง

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 23-26 กันยายน 2562 มีผู้ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ 3,115,449 ราย และเริ่มใช้วันที่ 27-29 กันยายน 2562 รวม 3 วัน มีผู้เริ่มไปใช้สิทธิ์แล้ว 370,523 ราย โดยมียอดการใช้จ่ายประมาณ 294 ล้านบาท

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดการใช้จ่าย พบว่า กว่าร้อยละ 50 ของการใช้จ่าย หรือประมาณ 148 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายที่ร้าน "ช้อป"ซึ่งเป็นร้านในกลุ่ม OTOP ร้านวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐ รองลงมา คือร้าน "ชิม"หรือร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่มียอดใช้จ่ายประมาณ 60 ล้านบาท สำหรับร้าน "ใช้" เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ เป็นต้น มียอดใช้จ่ายประมาณ 7 ล้านบาท ส่วนร้านค้าทั่วไป มียอดใช้จ่ายประมาณ 79 ล้านบาท โดยร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยแอพพลิเคชัน "ถุงเงิน" G-Wallet ช่อง 1 วงเงิน 1,000 บาทจากรัฐบาล จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีของร้านค้าไม่เกินเวลา 21.00 น. ของวันทำการถัดไป ส่วน G-Wallet ช่อง 2 ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ประชาชนเติมเอง จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีของร้านค้าในวันถัดไปไม่เกินเวลา 6.30 น.ของทุกวัน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาระบบการชำระเงินระหว่าง "ถุงเงิน" และ "เป๋าตัง" สามารถใช้งานได้ปกติ โดยระบบไม่ได้ล่มตามที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งตามเงื่อนไขการลงทะเบียนร้านค้า "ถุงเงิน" 1 ร้านค้า จะสามารถเข้าใช้งานพร้อมกันได้ 20 จุดใน 1 จังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับชำระเงิน โดยเฉพาะร้านในกลุ่ม "ชิมช้อปใช้"เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังเศรษฐกิจฐานรากให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ สำหรับร้านค้าขนาดใหญ่ซึ่งเป็นร้านประเภททั่วไปที่มีหลายสาขาสามารถบริหารจัดการโดยลดจำนวนสาขาลงเพื่อให้มีจุดรับชำระเงินในแต่ละสาขาเพิ่มขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ใช้สิทธิ์

ด้านน.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการชิมช็อปใช้ขณะนี้มีจำนวน 76,961 ร้านค้า โดยกรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศยังคงตั้งจุดรับสมัครต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 15 ต.ค.62 ในวันและเวลาราชการซึ่งคาดว่าหลังจากปิดรับสมัครจะมีร้านค้าเข้าร่วมมาตรการไม่น้อยกว่า 80,000 ร้านค้า โดยการใช้สิทธิชิมช้อปใช้ในวงเงิน 1,000 บาท (G-Wallet 1) และการเติมเงินในกระเป๋า G-Wallet 2 ได้เริ่มใช้งานจริงตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.62 ผ่าน App เป๋าตังโดยร้านค้าใช้ App ถุงเงินในการรับชำระค่าสินค้าและบริการจากผู้ใช้สิทธิ

กรมบัญชีกลางมีหน้าที่ในการจ่ายเงินค่าสินค้าและบริการให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้โดยมีรอบการจ่ายเงิน ดังนี้

(1) กระเป๋าสิทธิชิมช้อปใช้ 1,000 บาท (G-Wallet1) จะตัดยอดในเวลาเที่ยงคืน โดยธนาคารกรุงไทยจะทำการตรวจสอบความถูกต้องและประมวลผล และกรมบัญชีกลางจะทยอยโอนเงินเข้าบัญชีของร้านค้าตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันทำการถัดไปแต่ไม่เกินเวลา 21.00 น. กรณีที่เป็นวันหยุดทำการ (เสาร์-อาทิตย์) จะดำเนินการโอนเงินให้ร้านค้าในวันทำการแรกถัดไป เช่น ร้านค้าที่รับเงินจาก App เป๋าตัง ในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.62 (ซึ่งเป็นวันแรกที่เริ่มจ่ายเงินร้านค้าตามมาตรการ) จะได้รับเงินในวันจันทร์ที่ 30 ก.ย.62 ซึ่งรวมกับยอดรายการขายของวันเสาร์ที่ 28 และวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย.62 ด้วย

(2)กระเป๋า G-Wallet 2 จะตัดยอดในเวลา 23.30 น.โดยธนาคารกรุงไทยจะทำการประมวลผลและทยอยโอนเงินเข้าบัญชีของร้านค้าตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนแต่ไม่เกินเวลา 05.00 น.ของวันถัดไป โดยไม่เว้นวันหยุดทำการ (เสาร์-อาทิตย์)

ส่วนกรณีที่ร้านค้าต้องการตรวจสอบรายการแสดงการขายในแต่ละวันว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ สามารถเรียกดูข้อมูลได้จาก App ถุงเงิน ดังนั้นจึงขอให้ผู้ประกอบการร้านค้ามั่นใจได้ว่าได้รับเงินจากการใช้สิทธิของปชช.ที่เข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้อย่างแน่นอนนอกจากการตรวจสอบรายการแสดงการขายของร้านค้าแล้ว กรมบัญชีกลางและ ธ.กรุงไทย ยังได้ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินการของร้านค้าทุกร้านที่เข้าร่วมมาตรการด้วยหากพบว่ามีพฤติกรรมหรือการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์หรือส่อไปในลักษณะการทำผิดเงื่อนไขของมาตรการ จะดำเนินการระงับการจ่ายเงินไว้ก่อนจนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเรียบร้อย หากร้านค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการโอนเงินเข้าบัญชีร้านค้าและการใช้งาน App ถุงเงินติดต่อสอบถามธนาคารกรุงไทย โทร 02 111 1144 ตลอด 24 ชม.ทุกวัน

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนหรือลงทะเบียนไม่สำเร็จยังสามารถลงทะเบียนใช้สิทธิได้จนถึงวันที่ 15 พ.ย.62 หรือจนกว่าจะครบ 10ล้านคน โดยระบบเปิดรับลงทะเบียนวันละ 1 ล้านคนเท่านั้น ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนและดาวน์โหลดใช้งาน App เป๋าตังสำเร็จแล้วสามารถใช้สิทธิชิมช้อปใช้วงเงิน1,000 บาท (G-Wallet 1) ในจังหวัดที่เลือกตอนลงทะเบียนไว้ 1 จังหวัดเท่านั้นภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS (หากเกินเวลาเงินจะถูกดึงกลับ) และหากมีการเริ่มใช้สิทธิแล้วจะสามารถใช้วงเงิน 1,000 บาทต่อไปได้จนถึงวันที่ 30 พ.ย.62 ส่วนกระเป๋า G-Wallet 2 ที่ต้องเติมเงินใช้จ่ายผ่าน App เป๋าตังเองนั้นสามารถใช้สิทธิได้ทุกจังหวัดโดยเป็นจังหวัดใดก็ได้ที่ไม่ซ้ำกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านและยังมีสิทธิได้รับเงินคืน (Cash Back) 15% ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน ดังนั้นจึงขอเชิญชวนผู้มีได้สิทธิในมาตรการแล้วเติมเงินใน G-Wallet 2 และไปท่องเที่ยวใช้จ่ายในจังหวัดที่ตนสนใจเพื่อให้มีเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ