นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนเห็นด้วยกับนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยหากทำได้ถึง 60% ของนโยบายที่ประกาศก็น่าจะเห็นผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจขยายตัวได้ในไตรมาส 3/51 แต่ยังมีความกังวลถึงการหารายได้ของรัฐบาลว่าจะนำจากส่วนใดมาใช้จ่ายตามนโยบาย เพราะแต่ละโครงการใช้งบประมาณค่อนข้างสูง โดยโครงการเมกะโปรเจกต์ต้องลงทุนประมาณ 400,000 ล้านบาท ขณะที่เงินคงคลังมีประมาณ 10,000 ล้านบาท และรัฐบาลกู้เงินจากต่างประเทศมาแล้ว 65,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งภาระหนี้ดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 47-48% ของจีดีพี จึงเกือบเต็มเพดานที่ภาระหนี้จะต้องไม่เกิน 50% ของจีดีพี ส่วนกรณีรัฐบาลจะใช้มาตรการภาษี และคงอัตราภาษี มูลค่าเพิ่ม 7% ไปอีก 2 ปี จะทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมา รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นด้วยการอัดฉีดเงินลงไปสู่รากหญ้า และรัฐบาลควรชะลอการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ออกไปอีก 2-3 เดือน