ครม.ผ่านร่าง พ.ร.บ.กำหนดคุณสมบัติ การสรรหาและคัดเลือกกรรมการ กสทช.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 29, 2019 16:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว คือ 1.กำหนดให้ กสทช.มีกรรมการจำนวน 7 คน ซึ่งแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้านกิจการกระจายเสียง ด้านกิจการโทรทัศน์ ด้านกิจการโทรคมนาคม หรือด้านอื่น ๆ ที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. (เดิมให้แต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านกิจการกระจายเสียง ด้านกิจการโทรทัศน์ ด้านกิจการโทรคมนาคม ด้านวิศวกรรม ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จำนวนด้านละ 1 คน)

2.แก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช. เช่น เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ ต้องไม่เป็นกรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้น หรือหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม เป็นต้น

3.แก้ไขเพิ่มเติมผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการ กสทช. เช่น รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดีผู้พิพากษา รองอธิบดีศาลปกครองชั้นต้น ตุลาการพระธรรมนูญ รองหัวหน้าศาลทหารกลาง หรือรองอธิบดีอัยการ เป็นหรือเคยเป็นทหาร หรือตำรวจที่มียศตั้งแต่พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี หรือพลตำรวจตรี เป็นต้น และเพิ่มเติมการเป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจเพื่อความชัดเจน

4.แก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการสรรหา และการลงคะแนนเสียงเพื่อคัดเลือกรรมการ กสทช. ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแก้ไขในประเด็นต่าง ๆ เช่น วิธีการลงคะแนนของคณะกรรมการสรรหาให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย การบันทึกเหตุผลในการลงคะแนนและผู้ซึ่งจะได้รับการคัดเลือกต้องได้รับคะแนนเสียงถึงสองในสามของจำนวนคณะกรรมการสรรหาเท่าที่มีอยู่ การดำเนินการคัดเลือกกรรมการโดยวุฒิสภา ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา

5.ให้คณะกรรมการสรรหามีหน้าที่และอำนาจวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ผู้ได้รับเลือกหรือผู้ได้รับการสรรหา

6.เพิ่มบทเฉพาะกาลเพื่อให้กรรมการ กสทช. ซึ่งดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และหากมีตำแหน่งว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ให้ กสทช. ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่จนกว่าจะมี กสทช.ใหม่ตามร่างพระราชบัญญัตินี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ