โดรับ มิสทรีย์ ผู้อำนวยการและนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมจากก็อดเรจ อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด ประจำลอนดอนกล่าวว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) อาจแตะระดับ 4,500 ริงกิตต่อตันในปีนี้ อันเป็นผลมาจากผลผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ในการผลิตน้ำมันมีปริมาณลดลง และความต้องการจากจีนและอินเดียที่เพิ่มสูงขึ้น "ราคา CPO อาจพุ่งเหนือระดับ 4,000 ริงกิตต่อตันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากอุปทานน้ำมันที่ใช้ในการบริโภคทั่วโลก 17 ชนิดมีจำนวนจำกัด และความต้องการที่แข็งแกร่งจากอินเดียและจีน" มิสทรีย์กล่าว "ราคาน้ำมันปาล์มอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 4,500 ริงกิตต่อตันในช่วงเดือนก.ย. 2551 - ก.พ.2552 หากสภาพอากาศเลวร้ายมากกว่าเดิม" ราคาน้ำมันที่ใช้ในการบริโภคหลักๆ ทะยานขึ้นในเดือนนี้ หลังจากที่จีนประกาศว่า 40% ของการเพาะปลูกเรพซีดในประเทศได้รับความเสียหายจากเหตุพายุหิมะพัดถล่มเมื่อช่วงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า สัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบล่วงหน้าพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,914 ริงกิตต่อตันในตลาดซื้อขายอนุพันธ์ของมาเลเซียเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันปาล์มที่พุ่งขึ้นเนื่องจากน้ำมันพืชสามารถนำไปผสมกับเชื้อเพลิงจากซากดึกดำบรรพ์เพื่อนำไปผลิตไบโอดีเซลได้ โธมัส มีลเก้ ผู้อำนวยการสำนักงานน้ำมันโลกที่ฮัมเบิร์กกล่าวว่า ราคา CPO อาจจะแตะระดับโดยเฉลี่ยที่ 3,600 ริงกิตต่อตันในอีก 2 ปีข้างหน้า "ผมเชื่อว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุด และอาจจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4,000 ริงกิตต่อตันสักระยะ และอาจจะไม่ลดลงต่ำกว่าระดับ 3,000 ริงกิต" เขากล่าว