ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.20/22 แกว่งแคบจากช่วงเช้า ธุรกรรมเบาบาง ตลาดเงียบใกล้ช่วงวันหยุด-ไร้ปัจจัยใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 19, 2019 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.20/22 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเช้าที่ ระดับ 30.22 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางทรงตัวรอปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับเป็นช่วงใกล้วันหยุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ตลาดค่อนข้างเงียบ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.21-30.24 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้ทิศทางบาทค่อนข้างนิ่ง ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน
กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ระหว่าง 30.18-30.25 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 109.55 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.58 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1136 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1126 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,573.51 จุด เพิ่มขึ้น 9.77 จุด, +0.62% มูลค่าการซื้อขาย 65,486.19 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 446.87 ล้านบาท (SET+MAI)
  • อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแผนผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการไทยในปี
63 ว่า กรมฯ ได้เตรียมแผนเจาะตลาดเชิงลึก นอกจากนี้จะเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก ทั้งการร่วมมือกับผู้นำเข้ากิจกรรมกระตุ้น
ความต้องการสินค้าและบริการที่มีศักยภาพ, เพิ่มและขยายช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างโอกาสส่งออกให้กับสินค้าไทย คาดว่าจะมีส่วนทำให้
มูลค่าการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นได้ โดยส่วนตัวมองว่า น่าจะขยายตัวเป็นบวกได้ แต่จะบวกเท่าไร ยังบอกไม่ได้ ต้องรอให้ประเมิน
สถานการณ์ส่งออกของไทยในประเทศต่าง ๆ และกำหนดเป้าหมายอย่างเป็นทางการก่อน
  • กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ได้
ออก "มาตรการ EXIM เสริมสภาพคล่องผู้ส่งออก" และ "มาตรการ EXIM ลดภาระในการชำระหนี้" เพื่อช่วยผู้ส่งออก SMEs ทั้งลูกค้า
ใหม่และลูกค้าปัจจุบันของ EXIM BANK ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ให้มีสภาพคล่องมากขึ้นสำหรับนำไปใช้ในกิจการและได้รับการบรรเทาภาระ
ในการชำระหนี้ในภาวะที่อาจได้รับคำสั่งซื้อลดลง แต่ยังคงมีภาระของต้นทุนคงที่ที่กิจการต้องจ่ายทุกเดือน หรือเมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามา ก็
สามารถนำมาเบิกใช้สินเชื่อหมุนเวียนได้ รวมทั้งใช้ในการปรับปรุงสินค้าและบริการให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น พร้อมที่จะแข่งขันท่ามกลางตลาด
โลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงในปี 2563
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% และคงนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบมหาศาลไว้ในการประชุม
วันนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะส่งสัญญาณของการชะลอตัวลงนับตั้งแต่ที่ได้มีการปรับขึ้นภาษีอุปโภคบริโภคเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันนี้ว่า BOJ เล็งเห็นความจำเป็นในการเดินหน้านโยบาย
การเงินแบบผ่อนคลาย พร้อมระบุว่า การขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภคนั้น ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในระดับที่น้อยกว่าในปี 2557
  • อดีตที่ปรึกษาธนาคารกลางจีน (PBOC) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มจะขยายตัวที่ระดับ 6.1% ในปี 2562 และ
คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 6% ในปี 2563 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
  • วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนม.ค.ปีหน้า หลังจากสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติถอด
ถอนปธน.ทรัมป์ใน 2 ข้อหาเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งได้แก่ ข้อหาการใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภา
คองเกรส ส่งผลให้ทรัมป์กลายเป็นปธน.คนที่ 3 ของสหรัฐที่ถูกพิจารณาถอดถอนในขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร ถัดจาก แอนดรูว์ จอห์นสัน
และ บิล คลินตัน
  • คณะกรรมการภาษีศุลกากรของสภาแห่งรัฐจีน ได้เปิดเผยรายการสินค้าของสหรัฐเพิ่มเติมที่จะได้รับการยกเว้นจากการเก็บ
ภาษีนำเข้าจากการตอบโต้ด้านภาษีรอบแรกต่อมาตรา 301 ของสหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ