นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเป็นห่วงและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับตาอย่างใกล้ชิดต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านว่าเหตุการณ์จะพัฒนาไปในทางใด ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้น ยังพูดไม่ได้ว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไรบ้าง แต่ความเป็นไปได้ที่จะได้รับผลกระทบมีแน่นอน แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาแค่กับไทยเท่านั้น เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบไปทั้งโลก ขณะที่ปัจจัยบวกก็ยังมีอยู่ จากการคาดการณ์แนวโน้มว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2563 จะขยายตัวได้ดีขึ้น จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่คาดว่าจะคลี่คลายในทิศทางที่ดี
"กระทรวงการคลังยังไม่ได้ประเมินเกี่ยวกับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าทั้งในส่วนของกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็จะมีการประเมินถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยต้องประเมินก่อนว่าสถานการณ์ไปทางไหน จะยืดเยื้อหรือคลี่คลายไปได้" นายอุตตม กล่าว
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้มีความพร้อมหากรัฐบาลเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะออกมาตรการใหม่อาจจะเป็นมาตรการด้านการลงทุน พร้อมกับการขับเคลื่อนปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะส่งผลดีกับระบบเศรษฐกิจของประเทศในระยะใกล้ตัวท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกเช่นนี้