ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดที่ 30.28/31 ระหว่างวันเคลื่อนไหวกรอบแคบเป็นไปตามแรงซื้อ-ขายปกติ คาดกรอบพรุ่งนี้ 30.27-30.35

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 9, 2020 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.28/31 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับ ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.29/33 บาท/ดอลลาร์

ในระหว่างวัน เงินบาทอ่อนค่าไปมากสุดที่ระดับ 30.33 บาท/ดอลลาร์ แต่ทั้งนี้ไม่ได้มาจากปัจจัยใดเป็นสำคัญ คาดว่าจะเป็น ผลจากแรงซื้อแรงขายในตลาดตามปกติ จากนั้นเงินบาทค่อยๆ แข็งค่าขึ้นมาในช่วงท้ายตลาด แต่ภาพรวมตลอดทั้งวันเงินบาทไม่ได้เคลื่อน ไหวในกรอบกว้างมากนัก

"เงินบาทตลอดทั้งวันนี้ยังทรงๆ มีช่วงเที่ยงที่อ่อนค่าไปที่ 30.33 แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ กลับแข็งค่าขึ้นมา" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.27 - 30.35 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.41/44 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.20 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1100 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1115 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,579.64 จุด เพิ่มขึ้น 20.37 จุด (+1.31%) มูลค่าการซื้อขาย 66,545.96 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,410.56 ลบ.(SET+MAI)
  • ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย คาดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 63 ว่าจะเติบโตได้ 2.8% ส่วนภาค
การส่งออกไทยในปีนี้ มองว่ายังมีโอกาสติดลบที่ -0.7% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวอยู่ ทำให้การค้าขายโลกชะลอตัวตาม
ประกอบกับยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก รวมถึงทิศทางเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้เงินบาทมีโอกาสจะหลุด 30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
ลงมาอยู่ที่ 29.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
  • ธนาคารโลก เปิดเผยว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 2.5% ในปี 2563 โดยกระเตื้องขึ้น
เล็กน้อยจากระดับต่ำสุดที่ 2.4% ในปี 2562 แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจขาลง ส่วนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในตลาดเกิด
ใหม่และประเทศกำลังพัฒนาคาดว่า จะเพิ่มขึ้นสู่ 4.1% ในปี 2563 จาก 3.5% ในปี 2562 ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศที่
พัฒนาแล้ว จะชะลอลงสู่ 1.4% ในปี 2563 จาก 1.6% ในปี 2562 ซึ่งเป็นผลจากความอ่อนแออย่างต่อเนื่องในภาคการผลิต
  • กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ว่า รองนายกรัฐมนตรีจีน จะนำคณะผู้แทนของจีนเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันของสหรัฐใน
ระหว่างวันที่ 13-15 ม.ค.นี้ เพื่อร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับสหรัฐ
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) และธนาคารกลางแห่งประเทศลาว ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือการเงินระดับทวิภาคี
เพื่อส่งเสริมการใช้สกุลเงินของแต่ละประเทศในด้านการค้าและการลงทุน โดยข้อตกลงนี้ จะยินยอมให้ทั้งสองประเทศสามารถชำระหนี้โดย
ใช้สกุลเงินของประเทศได้โดยตรง ในการทำธุรกรรมภายใต้บัญชีปัจจุบันและบัญชีทุนทั้งหมด
  • รมว.คลังฮ่องกง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมจัดงบประมาณมูลค่ามหาศาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยงบประมาณ
ประจำปีที่จะเปิดเผยในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะใช้ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน และบริการสาธารณะ แต่จะไม่มีการแจกเงินสด นอกจากนี้
ฮ่องกงยังมีงบประมาณแกินดุลจำนวนมากมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่าจะสามารถผ่านช่วงเศรษฐกิจถดถอยนี้ไปได้
  • สมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดีย (FICCI) เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียพิจารณาผ่อนปรนเป้าหมายการขาดดุลการ

คลัง เพื่อสนับสนุนการอัดฉีดเงินทุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นอุปสงค์และการลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ