ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.69/71 อ่อนค่าต่อเนื่อง กังวลไวรัสโคโรน่า-พ.ร.บ.งบฯปี 63 ล่าช้า มองกรอบพรุ่งนี้ 30.65-30.75

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 27, 2020 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.69/71 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.61 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทตลอดทั้งวันนี้ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะนักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์การ แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งขณะนี้มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวกระจายไปยังหลายประเทศแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังมี ความกังวลต่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่อาจจะล่าช้าจากข้อติดขัดในทางกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจัดทำ นโยบายด้านต่างๆ ของรัฐบาลให้ต้องล่าช้าออกไปด้วย

"บาทวันนี้วิ่งอ่อนค่าไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เช้า น่าจะเป็นเพราะความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนา ส่วนปัจจัยในประเทศน่าจะมาจาก พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ที่อาจจะล่าช้าไปจากกำหนดเดิม ซึ่งส่งผลต่อการออกนโยบายในแต่ละอย่างของรัฐบาลให้ต้องล่าช้าตามไปด้วย" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.65 - 30.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.88/91 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.94 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1021/1024 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1030 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,524.15 จุด ลดลง 45.40 จุด (-2.89%) มูลค่าการซื้อขาย 69,174 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,724.94 ลบ.(SET+MAI)
  • กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวใน
กรอบ 30.40-30.80 บาท/ดอลลาร์ โดยนักลงทุนจะติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนา หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นและแพร่
กระจายไปทั่วโลก นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค.63 ซึ่งคาดว่าจะมีมติคง
ดอกเบี้ยตามเดิม ส่วนการประชุมธนาคารอังกฤษ (BOE) วันที่ 30 ม.ค.63 อาจมีมติลดดอกเบี้ยลง
  • กรมควบคุมโรค ระบุว่า กรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยืนยันว่าไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อใน
ประเทศไทย ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย โดยกลับบ้านแล้ว 5 ราย เป็นคนจีน 4 ราย คนไทย 1
ราย ส่วนอีก 3 รายยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นจากประเทศจีน
ยอมรับว่ากระทบกับภาคการท่องเที่ยวของไทยในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทางการจีนจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์
ใหม่ว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นส่งผลต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างชัดเจน ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง และนักท่องเที่ยวในประเทศที่
เดินทางลดลง ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ไวรัสตอนนี้ค่อนข้างรุนแรง ยิ่งตอนนี้
จีนปิดประเทศด้วย ห้ามนักท่องเที่ยวทุกประเภทเดินทางเข้าประเทศจีนทั้งที่เดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์และเดินทางท่องเที่ยวเอง ยกเว้นนัก
ธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ห้ามพลเมืองของตัวเองเดินทางออกนอกประเทศส่งผลให้นักท่องเที่ยวมีการยกเลิกการเดินทางแล้ว 80-90% เนื่อง
จากเดินทางไม่ได้
  • ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยอมรับว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จาก
จีนกระทบโดยตรงต่อกลุ่มธุรกิจขนส่งและท่องเที่ยว แต่สำหรับภาพรวมธุรกิจอื่น ๆ ยังต้องติดตามผลกระทบรอบด้านให้ชัดเจนก่อน ซึ่งเบื้อง
ต้นมองว่ามีทั้งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเชิงลบและเชิงบวก ขณะที่บางธุรกิจอาจไม่ได้รับผลด้านใดเลย
  • สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตลาดการเงินของจีนอาจหยุดยาวตามคำสั่งขยายวันหยุดตรุษจีน หลังรัฐบาลจีนประกาศ
ขยายเวลาวันหยุดเนื่องในเทศกาลตรุษจีน โดยให้สิ้นสุดวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 ม.ค. ซึ่งการตัดสินใจดัง
กล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
  • รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของสิงคโปร์ คาดการณ์ว่า วิกฤติไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ จะส่งผล
กระทบต่อเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้ จากที่ซบเซาอยู่เป็นทุนเดิมแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบ
อย่างหนัก อย่างไรก็ดี ขณะนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาหามาตรการบรรเทาผลกระทบในภาคส่วนต่างๆที่ได้รับผลกระทบ
  • รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit ของอังกฤษ เปิดเผยว่า รัฐบาลตั้งเป้าที่จะใช้โควต้าการจ่ายภาษีเป็นศูนย์และโควต้าเป็น
ศูนย์ สำหรับข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EU) ขณะที่รัฐบาลจะเปิดเผยเป้าหมายของการเจรจาการค้าภายหลังจากที่อังกฤษแยกตัว
จากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 31 ม.ค.
  • สัปดาห์นี้ สหรัฐจะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.

ค.จาก Conference Board, คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย, จำนวนผู้

ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562 (ประมาณการขั้นต้น)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ