ยอดส่งออกสินค้าของฟิลิปปินส์ในเดือนม.ค.ปี 2551 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.4% คิดเป็นมูลค่า 4.24 พันล้านดอลลาร์ จากยอดส่งออกในปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากความต้องการในจีนและตลาดอื่นๆที่สูงขึ้นช่วยชดเชยยอดส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกในเดือนม.ค.ยังคงขยายตัวน้อยกว่าระดับเดือนธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 21.4% สถิติในเดือนม.ค.สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการจากสหรัฐที่ซบเซาลง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่า ยอดส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 61.5% ของยอดส่งออกทั้งหมด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6% แตะระดับ 2.61 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งขยายตัวน้อยกว่าระดับเดือนก่อนหน้านี้ที่ขยายตัสขึ้น 12.3% ทั้งนี้ ยอดส่งออกโดยรวมในเดือนม.ค.ลดลง 5.2% จากระดับ 4.47 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.2550 "ยอดส่งออกปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศอื่นๆในเอเชีย แต่อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกในภูมิภาคยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากความต้องการทั่วโลกขยายตัว แม้ความต้องการจากสหรัฐจะซบเซาลงก็ตาม" เดวิด โคเฮ็น หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแอ็คชั่น อิโคโนมิกส์กล่าว โคเฮ็นคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของฟิลิปปินส์ในเดือนม.ค.จะขยายตัว 7% "ยอดส่งออกสินค้าไปยังจีน และตลาดอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยที่ช่วยชดเชยยอดส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐที่ซบเซาลง" โคเฮ็นกล่าว ยอดส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ซึ่งยังคงเป็นตลาดส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ โดยคิดเป็นสัดส่วน 16.2% ของยอดส่งออกทั้งหมดในเดือนม.ค. ลดลง 1.0% มาอยู่ที่ระดับ 688.8 ล้านดอลลาร์ ส่วนยอดส่งออกไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3.9% แตะระดับ 630.7 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 14.9% ของยอดส่งออกทั้งหมด ขณะที่ยอดส่งออกไปยังฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดอันดับที่ 3 เพิ่มขึ้น 20.7% แตะระดับ 552.0 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 13% ของยอดส่งออกทั้งหมด และยอดส่งออกไปยังจีน เพิ่มขึ้น 1.7% แตะระดับ 505.2 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 12% ของยอดส่งออกทั้งหมด สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน