ดอยช์แบงค์คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของจีน ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ จะทะยานแตะระดับ 7.2% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ที่ 4.8%
หม่า จุน นักเศรษฐศาสตร์จากดอยช์แบงค์ กล่าวว่า ตัวเลขซีพีไอเดือนก.พ.ซึ่งทะยานกว่า 8.7% เป็นเครื่องบ่งชี้ว่ารัฐบาลควรประกาศใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดกว่าเดิม เนื่องจากมาตรการที่ไม่มีความแน่นอนจะส่งผลกระทบให้ซีพีไอขยายตัวมากกว่านี้
"เราปรับเพิ่มคาดการณ์ซีพีไอปีนี้เป็น 7.2% จากเดิมที่ 6.4% ที่เราคาดการณ์ไว้เมื่อกลางเดือนก.พ." นายหม่ากล่าว
"หากรัฐบาลต้องการควบคุมให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 4.8% ก็ต้องทำให้ราคาอาหารลดลงให้ได้ 1.6% ต่อเดือน ตั้งแต่เดือนมี.ค.-ธ.ค."
นายหม่ากล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเหนือการคาดการณ์และสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลได้ตั้งไว้
"เนื่องจากสินค้าเกษตรไปจนถึงอาหารแปรรูปมีราคาสูงขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า" นายหม่ากล่าว
นอกจากนั้น ราคาวัตถุดิบที่สำคัญๆ อย่างแร่เหล็ก ถ่านหิน โลหะ ซีเมนต์ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นถึง 25% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับ 4% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการสร้างแรงกดดันให้ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เพิ่มขึ้น และในที่สุดดัชนีซีพีไอก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ด้านราคาน้ำมันก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแตะ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นไม่สามารถกระตุ้นให้มีการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันได้อีกต่อไป และยิ่งจะทำให้อุปสงค์ตึงตัวกว่าเดิม สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์:
[email protected]