นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.10 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทช่วงปิดตลาดอ่อนค่าจากช่วงเช้า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในมาตรการสกัดกั้นการแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีมาตรการเข้มข้นทั้งการปิดสถานศึกษา, สถานบันเทิง, สนามกีฬา, โรงมหรสพต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นการชั่วคราว ในขณะที่ US index ก็ปรับตัวแข็งค่าขึ้น
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า โดยมองกรอบไว้ที่ 32.20-32.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.64/67 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.72/95 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1090/1093 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1154/1179 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,035.17 จุด ลดลง 10.91 จุด (-1.04%) มูลค่าการซื้อขาย 67,130 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 5,423.84 ลบ.(SET+MAI)
- ครม.เห็นชอบมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยรัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้มีการปิดประเทศหรือปิดเมืองแต่
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าซื้อพันธบัตรภาครัฐทั้งระยะสั้นและระยะยาว มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท เพื่อ
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศปรับหลักเกณฑ์การขึ้น-ลง ของราคาหลักทรัพย์สูงสุดและต่ำสุดในแต่ละ
พร้อมกันนั้น จะปรับเกณฑ์มาตรการหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว (เซอร์กิต เบรกเกอร์) โดยระดับที่ 1 จากลดลง 10% จะหยุดพักการซื้อขาย 30 นาที เป็น 8% หยุดพักการซื้อขาย 30 นาที ระดับที่ 2 จากลดลง 20% จะหยุดพักการซื้อขาย 60 นาที เป็น 15% หยุดพักการซื้อขาย 30 นาที และเพิ่มระดับที่ 3 ลดลง 20% จะหยุดพักการซื้อขาย 60 นาที โดยให้มีผลชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.จนถึงไม่เกิน 30 มิ.ย.63
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้อัดฉีดเงิน 3.0272 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดในวันนี้ เพื่อเป็นเงินทุนสกุลดอลลาร์
สำหรับระยะเวลา 84 วัน ซึ่งนับเป็นการอัดฉีดเงินทุนครั้งแรกของ BOJ หลังจากที่ธนาคารกลางทั่วโลก ได้ตกลงกันในสัปดาห์นี้ที่จะ
เสนอสินเชื่อระยะ 3 เดือนเพื่อลดภาวะตึงตัวด้านเงินทุนท่ามกลางวิกฤตไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งการอัดฉีดเงินดังกล่าวถือว่า
มีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ธ.ค.51