ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.32/34 อ่อนค่าจากช่วงเช้า หลังรัฐออกมาตรการเข้มสกัดแพร่ระบาดโควิด-19, ดอลล์แข็ง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 17, 2020 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.10 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทช่วงปิดตลาดอ่อนค่าจากช่วงเช้า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในมาตรการสกัดกั้นการแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีมาตรการเข้มข้นทั้งการปิดสถานศึกษา, สถานบันเทิง, สนามกีฬา, โรงมหรสพต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นการชั่วคราว ในขณะที่ US index ก็ปรับตัวแข็งค่าขึ้น

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า โดยมองกรอบไว้ที่ 32.20-32.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.64/67 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.72/95 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1090/1093 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1154/1179 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,035.17 จุด ลดลง 10.91 จุด (-1.04%) มูลค่าการซื้อขาย 67,130 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 5,423.84 ลบ.(SET+MAI)
  • ครม.เห็นชอบมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยรัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้มีการปิดประเทศหรือปิดเมืองแต่
อย่างใด เป็นเพียงการใช้มาตรการควบคุมในระดับที่เข้มข้น เช่น การสั่งปิดชั่วคราวสถานที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาด
เช่น สถานบันเทิง สนามกีฬา โรงมหรสพ สถานศึกษา เป็นต้น พร้อมกับงดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัด เลื่อนการหยุดเทศกาล
สงกรานต์ระหว่าง 13-15 เม.ย.63 ออกไปก่อนโดยให้เป็นวันทำงานปกติและจะหยุดชดเชยในภายหลัง ส่งเสริมการทำงานที่บ้าน เป็นต้น
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าซื้อพันธบัตรภาครัฐทั้งระยะสั้นและระยะยาว มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท เพื่อ
ช่วยลดความผันผวนและเอื้อต่อการทำธุรกรรมของผู้ร่วมตลาด นอกจากนี้ ธปท.ได้เข้าทำธุรกรรมเสริมสภาพคล่องดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น
อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตลาดมีสภาพคล่องดอลลาร์สหรัฐที่เพียงพอต่อความต้องการ ทั้งนี้ ธปท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อม
เข้าดูแลตลาดการเงินและระบบการเงินให้ธุรกรรมทางการเงินสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศปรับหลักเกณฑ์การขึ้น-ลง ของราคาหลักทรัพย์สูงสุดและต่ำสุดในแต่ละ
วัน (ซีลลิ่ง-ฟลอร์) ในตลาดหลักทรัพย์ (SET) สำหรับหุ้น / หน่วยลงทุน / ใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์)/ DW /
ETF / TSR / DR จากเดิม บวก/ลบ 30% เป็น บวก/ลบ 15% ส่วน Foreign share จากเดิมบวก/ลบ 60% เป็น บวก/ลบ 30%

พร้อมกันนั้น จะปรับเกณฑ์มาตรการหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว (เซอร์กิต เบรกเกอร์) โดยระดับที่ 1 จากลดลง 10% จะหยุดพักการซื้อขาย 30 นาที เป็น 8% หยุดพักการซื้อขาย 30 นาที ระดับที่ 2 จากลดลง 20% จะหยุดพักการซื้อขาย 60 นาที เป็น 15% หยุดพักการซื้อขาย 30 นาที และเพิ่มระดับที่ 3 ลดลง 20% จะหยุดพักการซื้อขาย 60 นาที โดยให้มีผลชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.จนถึงไม่เกิน 30 มิ.ย.63

  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้อัดฉีดเงิน 3.0272 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดในวันนี้ เพื่อเป็นเงินทุนสกุลดอลลาร์

สำหรับระยะเวลา 84 วัน ซึ่งนับเป็นการอัดฉีดเงินทุนครั้งแรกของ BOJ หลังจากที่ธนาคารกลางทั่วโลก ได้ตกลงกันในสัปดาห์นี้ที่จะ

เสนอสินเชื่อระยะ 3 เดือนเพื่อลดภาวะตึงตัวด้านเงินทุนท่ามกลางวิกฤตไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งการอัดฉีดเงินดังกล่าวถือว่า

มีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ธ.ค.51


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ