นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการระยะ 2 ที่จะดูแลประชาชนที่ได้รับกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 24 มี.ค.นี้ โดยมาตรการดังกล่าวมุ่งเน้นเยียวยาภาคประชาชนคนไทยครอบคลุมทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
นอกจากนั้น วาระการประชุม ครม.เศรษฐกิจในรอบถัดไปจะหารือกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการเพิ่มเติมเข้ามาช่วยเหลือประชาชนในระยะถัดไป
"วันนี้เศรษฐกิจไทยพื้นฐานแข็งแกร่ง แม้ว่าเจอปัญหาโควิด-19 ซึ่งหลายประเทศก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน แต่มาตรการเข้ามาเยียวยาและดูแลให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนต่างๆ ในวันนี้ก็เพื่อประคับประคองและพยุงเศรษฐกิจไทยเอาไว้ ซึ่งมองเป็นแค่ผลกระทบชั่วคราวเชื่อว่าถ้ามีวัคซีนรักษาโควิด-19 สถานการณ์ทั่วโลกก็จะกลับมาสู่ภาวะผ่อนคลายอีกครั้ง"นายกอบศักดิ์ กล่าว
ขณะที่นายอุตตม เสาวนายน รมว.คลัง ซึ่งอยู่ระหว่างการกักตัวรอดูอาการหลังจากตำรวจติดตามติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า กระทรวงการคลัง ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประสานหารือกับทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ สำนักงบประมาณ สภาอุตสาหกรรม หอการค้า ฯลฯ เพื่อร่วมกันจัดเตรียมชุดมาตรการด้านเศรษฐกิจ ดูแลบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง
มาตรการบรรเทาผลกระทบระยะแรกได้ออกไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และวันนี้เราเห็นความจำเป็นของมาตรการเพิ่มเติมเป็นระยะที่สอง เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์และแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับมาตรการระยะสอง โดยรวมแล้วเราให้ความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบด้านต่างๆทั้ง รายได้ ภาระค่าใช้จ่าย และอื่นๆ โดยพยายามให้ครอบคลุมทุกกลุ่มครับ พร้อมกันนั้นเราจะเตรียมมาตรการทางเศรษฐกิจที่อาจจำเป็นต้องเพิ่มเติมในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้มาตรการมีผลและสามารถช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็ว กระทรวงการคลัง กำลังเตรียมนำเสนอมาตรการระยะสองต่อคณะรัฐมนตรี
นอกจากนั้น ช่วงบ่ายวันนี้ (22 มี.ค.) กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) สมาคมธนาคารไทย ได้ร่วมประกาศมาตรการดูแลตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้ในภาวะที่ไม่ปกติขณะนี้ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทุนหลากหลายโดยเฉพาะประชาชนผู้ลงทุนบุคคลรายเล็กจำนวนมากในตลาดหลักทรัพย์
อีกทั้งเป็นการสร้างเสริมให้ตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการไปได้มั่นคง ไม่กระทบภาคส่วนอื่นของเศรษฐกิจ เพราะระบบการเงินของประเทศปัจจุบัน มีความเชื่อมโยงถึงกันหมด และให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมั่นใจได้ว่าได้รับการดูแลที่เหมาะสมและทันสถานการณ์ สิ่งที่ประกาศวันนี้จึงถือมาตรการที่จำเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อดูแลประชาชนและระบบการเงินให้สอดคล้องกับปัจจุบันครับ