นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.83/85 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 32.65/66 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อจากช่วงเช้า ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่อง จากยังมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเมื่อสถานการณ์มีควมเสี่ยงมากขึ้น จึงทำให้นักลงทุนต้องการถือเงิน สดไว้ในมือมากขึ้น โดยเฉพาะสกุลดอลลาร์สหรัฐ
"เงินบาทยังอ่อนค่าต่อ เพราะยังเป็นห่วงต่อปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19...พอความเสี่ยงมาก คนก็อยากถือเงิน สดไว้ในมือ" นักบริหารเงินระบุ
โดยสัปดาห์นี้ เงินบาทมีโอกาสจะแตะระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ได้
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 - 33.00 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 32.8550 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.47/48 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.56/58 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0988/0989 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1012/1015 ดอลลาร์/ยูโร
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.พ.63 หดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน โดย
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อน จากอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ในตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับสูงขึ้น ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นจากมูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ลดลงมา แม้รายรับจาก ภาคการท่องเที่ยวจะลดลง ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกสุทธิ
- ธปท. ระบุว่า จากประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ที่คาดว่าจะหดตัว -5.3% นั้น ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะติด
- สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ปรับมุมมองทางเศรษฐกิจไทย จากเดิมขยายตัว 1.7% เป็นหดตัว 6.4%
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงิน 2 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 2.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบการเงินใน
- หนึ่งในคณะกรรมการบริหารด้านนโยบายของธนาคารกลางจีน มองว่าจีนไม่ควรกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์