ภาวะตลาดเงินบาท: ระหว่างวันอ่อนค่าแตะ 33.17 ก่อนกลับมาปิดที่ 33.00 แข็งค่าจากช่วงเช้า มองประกาศ"เคอร์ฟิว"ไม่กระทบตลาดเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 2, 2020 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.00 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 33.12 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.92-33.17 บาท/ดอลลาร์ ทำสถิติอ่อนค่าสุด ในรอบ 15 เดือนนับตั้งแต่ พ.ย.61

"ทิศทางบาทวันนี้จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยระหว่างวันทำนิวไฮที่ ระดับ 33.17 ส่วนที่มีข่าวเตรียมประกาศเคอร์ฟิวนั้นเป็นช่วงเวลาที่ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังไม่ กระทบต่อตลาดเงิน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.90-33.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 107.29 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 107.43 บาท/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0933 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0945 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,138.27 จุด เพิ่มขึ้น 32.76 จุด, +2.96% มูลค่าการซื้อขาย 69,237.21 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 645.61 ล้านบาท (SET+MAI)
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศ
ไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการประเมินเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ เห็นว่าจำเป็นต้องเร่งออกมาตราการดูแลเศรษฐกิจชุดที่ 3 ซึ่งครอบคลุม
ทุกกลุ่ม
  • รมว.คลัง กล่าวว่า แหล่งเงินที่จะใช้สำหรับดำเนินมาตรการดูแลเศรษฐกิจระยะที่ 3 จะมาจากงบประมาณรายจ่าย ปี
2563 โดยจะมีการออก พ.ร.บ.โยกงบประมาณของทุกกระทรวง ในส่วนที่ไม่จำเป็นมาใช้ดำเนินการ โดยยืนยันว่าการโยกงบดังกล่าวนี้
จะไม่ส่งผลกระทบกับการจ่ายเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้าง ซึ่งขณะนี้สำนักงบประมาณกำลังพิจารณาดำเนินการ จึงยังไม่สามารถบอก
ได้ว่าจะมีจำนวนเงินเท่าใด นอกจากนี้ จะมีการออก พ.ร.ก.กู้เงินภายในประเทศเพิ่มเติม
  • หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย กล่าวว่า ถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องใช้ยาแรงเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19
ที่เป็นวิกฤติใหญ่ที่กำลังลุกลามจากวิกฤตด้านสาธารณสุขไปสู่วิกฤตด้านเศรษฐกิจ มีความรุนแรงกว่าวิกฤตแฮมเบอเกอร์หรือวิกฤตต้มยำกุ้ง
โดยผลกระทบครั้งนี้ขยายวงกว้าง
  • โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดวันนี้ พบ
ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 104 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมยอดเสียชีวิต 15 ราย ยอดผู้ติดเชื้อรวมสะสมขณะนี้ 1,875 ราย
  • รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แจ้งต่อที่
การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) วันนี้เรื่องการยกระดับมาตรการในการ
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติมโดยกำหนดเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.ตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศผ่อนปรนข้อกำหนดในการสำรองเงินทุนชั่วคราวให้กับธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐ โดย
หวังที่จะให้ธนาคารเหล่านี้เพิ่มการปล่อยกู้ให้กับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกอาจหดตัวลงเกือบ 1% ในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่
ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพลิกผันอย่างรุนแรงจากที่ UN เคยคาดการณ์ก่อนไวรัสแพร่ระบาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.5%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ