ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.33/35 แข็งค่าจากช่วงเช้า หลังมีแรงขายดอลล์ทำกำไร คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.25 - 32.50

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 22, 2020 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.33/35 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.52 บาท/ดอลลาร์

เย็นนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากจากช่วงเช้า โดยระหว่างวันมีแรงขายดอลลาร์ต่อเนื่อง หลังจากที่ US Index ปรับตัวขึ้นไปสูง จึงทำให้มีการขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ดี ปัจจัยพื้นฐานระหว่างวันยังไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินในวันนี้มากนัก

"มีแรงขายดอลลาร์ เลยทำให้บาทแข็งค่า เพราะ US Index ขึ้นไปสูง นักลงทุนมองว่าราคาดี จึงขายทำกำไร แต่ระหว่าง วัน ไม่ได้มีปัจจัยอะไรเพิ่มเติม เป็นแค่แรงซื้อ แรงขายทั่วไป" นักบริหารเงินระบุ

ทั้งนี้ ตลาดยังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในทั่วโลก ตลอดจนราคาน้ำมันดิบตลาดโลก รวมทั้ง กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.25 - 32.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 107.82 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0860 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0854 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,261.81 จุด เพิ่มขึ้น 8.89 จุด (+0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 76,817 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,754.34 ลบ.(SET+MAI)
  • โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ
วันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 15 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,826 คน จำนวนผู้ที่หายปวยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,352 คน
กลับบ้านเพิ่มขึ้นอีก 244 คน รักษาตัวอยู่ในรพ. 425 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 49 คน
  • ที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ พิจารณาแผนการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยจะต้องมีการทดลองและต้อง
อาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ ตลอดจนการกระจายวัคซีนให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าภาย
ใน 3 เดือนหลังจากนี้
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการร่วมหารือมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ SMEs ว่า ขณะนี้
รัฐบาลโฟกัสในเรื่องการเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทุกภาคส่วน และจะนำเงินการกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก.ส่วนหนึ่งราว
4 แสนล้านบาทมาเยียวยา โดยเน้นไปเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy) เป็นหลัก เพราะต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่
ภาคส่งออกและภาคท่องเที่ยวจะดีขึ้นได้ภายในปีนี้ จึงต้องหันมาเน้นเรื่องการบริโภคในประเทศและการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐเป็นหลัก
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า นับจากต้นปี 63
ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ได้สร้างระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรายเดือน และรายปี ซึ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี
ครึ่ง บริเวณ 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวันที่ 14 เม.ย. แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่ราคาอ่อน
ตัวลงไม่มากและยังคงทรงตัวเคลื่อนไหวในระดับสูง อีกทั้งมีแนวโน้มราคาทองคำจะเป็นทิศทางขาขึ้นต่อไป
  • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ลูกค้าเลี่ยงการใช้เงินสด
ลดการเดินทางออกนอกบ้าน หันมาทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ผ่าน K PLUS มากขึ้น ซึ่งธนาคารได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความต้อง
การทำธุรกรรมผ่าน K PLUS อย่างต่อเนื่อง และพบว่าในไตรมาส 1/63 มีจำนวนธุรกรรมการเงินผ่าน K PLUS มากถึง 700 ล้าน
รายการ สูงขึ้น 8% จากไตรมาส 4/62 โดยธนาคารตั้งเป้าหมายปี 63 มีลูกค้าใช้งานแอพ K PLUS รวมเป็น 15 ล้านราย เติบโต
24% มียอดการทำธุรกรรมทุกประเภทรวม 11,600 ล้านรายการ เติบโต 37% จากปีก่อน
  • ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) กล่าวถึง สถานการณ์และแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 63 จากผลกระทบวิกฤติโควิด-19
ว่า จากผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซึมยาวจากปี 62 ต่อเนื่องด้วยการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้การขายหยุดชะงักในช่วงไตร
มาส 1/63 ที่ผ่านมา จากการทำกิจกรรมการขายได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาหลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสใน
ไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะมีผลกระทบยาวถึงการตัดสินใจซื้อในช่วงไตรมาส 2/63 และการที่มีจำนวนซัพพลายคอนโดมิเนียมที่ยังเหลืออยู่มาก
ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดยังไม่เร่งการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทำให้การขายยังไม่กลับมาคึกคักมาก
  • ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ยังคงประมาณการเดิมว่า การส่งออกไทยในปีนี้อาจติดลบถึง -8.6% เนื่องจากยัง
ต้องเตรียมรับแรงปะทะระลอกใหม่ โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ของปี 63 หลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐฯ
ยุโรป และญี่ปุ่นยังคงน่าเป็นห่วง จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศในกลุ่มนี้มีมากถึง 81.4% ของตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลก จนต้อง
ยกระดับมาตรการปิดเมืองและ Social Distancing ในหลายประเทศตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของ
ประเทศเหล่านี้ต้องเผชิญกับผลกระทบดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับจีน
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คงคาดการณ์มูลค่าส่งออกปี 63 ที่ -12.9% จาก
สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงและภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ล่าสุด ทั้งโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 2.4 ล้านคน และมี
การแพร่เชื้ออย่างรวดเร็วในทั่วโลก จึงเป็นที่มาของมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด ซึ่งส่งผลต่อการหยุดชะงักของระบบเศรษฐกิจในหลาย
ประเทศ ดังนั้น เศรษฐกิจโลกในปีนี้จึงมีแนวโน้มได้รับผลกระทบหนักต่อการระบาดของโควิด-19
  • ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้นัดหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรค เพื่อหารือเรื่องการเสนอญัตติขอเปิดสมัยประชุม
วิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาประเด็นพระราชกำหนด 3 ฉบับเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลของโควิด-19 ซึ่งภายหลัง
การประชุมจะมีการแถลงข่าวในนามพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง
  • YPO องค์กรผู้นำระดับโลกที่เกิดจากการรวมตัวของผู้บริหารกว่า 29,000 คนใน 130 ประเทศ เปิดเผยผลการสำรวจ
ความคิดเห็นของซีอีโอหลายพันคนทั่วโลกบ่งชี้ว่า ผู้นำธุรกิจทั่วโลกกำลังเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบรูปตัวยู อันเนื่องมาจากผล
กระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และซีอีโอจำนวนมากกังวลว่า บริษัทของพวกเขาอาจจะไม่รอดพ้นจากผลกระทบของ
โรคระบาดดังกล่าว
  • แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป (BofA) ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำในระยะเวลา 18 เดือน สู่ระดับ 3,000
ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งสูงกว่าสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้มากกว่า 50%

ในรายงานของ BofA ซึ่งมีชื่อว่า "The Fed can’t print gold" นั้น ได้มีการปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำขึ้น จากระดับก่อนหน้านี้ที่ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาลทั่วโลกได้ออกมาตรการกระตุ้นมูลค่ามหาศาลทั้งในด้าน การเงินและการคลัง โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

  • ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ยืน
ยันที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเปิดเศรษฐกิจโลกขึ้นมาอีกครั้ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ