นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ.เตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ถึงแผนโครงสร้างการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ หลังจะมีผู้ประกอบการรายใหม่นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่ำลง โดยคาดว่าแผนดังกล่าวจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้
ทั้งนี้ การประชุมกพช.เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่ามา ได้มอบหมายให้สนพ. และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไปทบทวนแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และ กพช. พิจารณาต่อไป ซึ่งเบื้องต้นกพช.จะประชุมในช่วงปลายเดือนมิ.ย. แต่ติดปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คาดว่าจะต้องนัดหมายการประชุมกันอีกครั้ง
ปัจจุบัน กกพ.อยู่ระหว่างประเมินผลการนำเข้า LNG ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) 2 ลำเรือ ในเดือนธ.ค.62 และเม.ย.63 ในปริมาณ 65,000 ตัน/ลำเรือ และเปรียบเทียบต้นทุนค่าไฟฟ้า และผลกระทบต่ออัตราค่าไฟฟ้า จากนั้น สนพ.จะนำผลดังกล่าวมาวิเคราะห์เพื่อนำไปสู่การปรับนโยบายกิจการก๊าซฯเสรี เพื่อเสนอต่อ กพช.ให้พิจารณาเดินหน้านโยบายต่อไป
การปรับโครงสร้างการแข่งขันในกิจการก๊าซฯใหม่ จะต้องหารือกับกระทรวงพลังงาน ว่าจะวางรูปแบบอย่างไร ทั้งเรื่องการกำหนดสูตรโครงสร้างราคาก๊าซฯ ซึ่งหลักการเดิมที่เคยเสนอ กพช.รับทราบไปนั้น เห็นว่าการนำเข้า LNG ของผู้ได้รับอนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) รายใหม่ จะไม่ถูกนำมาคำนวณในสูตรราคาเฉลี่ยรวม (Pool Gas) ที่จัดหาจาก 3 แหล่ง คือ การจัดหาก๊าซฯในประเทศ, การซื้อก๊าซฯจากเมียนมา และนำเข้าในรูปแบบ LNG ที่ปัจจุบันดำเนินการโดยบมจ.ปตท. (PTT) เพียงรายเดียว
กรณีดังกล่าวจะต้องพิจารณาว่าจะมีการปรับเปลี่ยนสูตรราคาก๊าซฯ ไปจากหลักการเดิมหรือไม่ รวมถึงเรื่องของคุณภาพก๊าซฯผ่านระบบท่อของ ปตท.ด้วย ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ จะต้องอยู่บนหลักการสำคัญ คือ เกิดการแข่งขัน และต้นทุนก๊าซฯต้องถูก เพื่อให้ประโยชน์ได้ประโยชน์จากต้นทุนอัตราค่าไฟฟ้าที่จะลดต่ำลงในอนาคต