ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.97/99 กลับมาแข็งค่าจากช่วงเช้า คาดกรอบสัปดาห์หน้า 30.55 - 31.30

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 12, 2020 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.97/99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดระดับ 31.13/18 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทกลับมาแข็งค่าจากช่วงเช้า โดยระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าไปมากสุดที่ระดับ 30.93 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)เตรียมยกเลิกเคอร์ฟิว และให้มีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ในระยะที่ 4 ซึ่งจะมี ผลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.63

ทั้งนี้ แนวโน้มเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง เว้นแต่จะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาที่จะส่งผลให้เงินบาทเปลี่ยนไปอ่อนค่า เช่น การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2, การออกมาส่งสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมทั้งการ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.55 - 31.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.49/53 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.60/80 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1319/1322 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1280/1.1300 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,382.56 จุด ลดลง 14.21 จุด (-1.02%) มูลค่าการซื้อขาย 85,787 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,974.70 ลบ.(SET+MAI)
  • โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค. มีมติเห็นชอบคลายการผ่อนคลายมาตรการ
สกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระยะที่ 4 ในกิจการ/กิจกรรม กลุ่มสีแดง ทำให้ตอนนี้เปิดเกือบปกติแล้วกว่า 95% ยกเว้น กลุ่ม
ธุรกิจประเภท ผับ บาร์ พร้อมให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. เป็นต้นไป แต่ยังคงมาตรการ
ควบคุมการเดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก/น้ำ/อากาศ
  • ศบค.เห็นชอบในหลักการการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด (Travel Bubble) เพื่อรับชาวต่างชาติเข้ามา
ในประเทศไทย เริ่มจากกลุ่มนักธุรกิจและกลุ่มที่จะมารับการรักษาทางการแพทย์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ และสามารถติดตามตัวได้
แต่ต้องยังต้องหารือรายละเอียด วิธีการ รวมถึงมาตรการในการควบคุมโรคก่อน โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการชุดย่อยไปศึกษาราย
ละเอียดและมาตรการต่างๆ เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจก่อน
  • ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือนมิ.ย. 63 อยู่ที่ระดับ 60.19 จุด ปรับลดลง 8.14
จุด หรือคิดเป็น 11.92% จากเดือนพ.ค.63 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 68.33 จุด โดยลดลงเป็นเดือนแรกของปี พร้อมจับตา 2 ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อ
ราคาทองคำ คือ 1.นโยบายการผ่อนคลายการปิดเมืองที่เร็วกว่ากำหนดของสหรัฐฯ 2.สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน
  • สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยหลังจาก ศบค.ผ่อนคลายมาตรการตั้งแต่ระยะที่ 1-3 ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียน
ในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนล้านบาทแล้ว และเชื่อว่าเมื่อรัฐบาลได้มีมาตรการคลายล็อก ระยะที่ 4 และระยะต่อไป ก็จะยิ่งช่วย
ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาช่วยหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องการให้ประชาชนออกมาช่วยกันจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยว
ในประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศไม่ทรุดตัวไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จัดการประชุมร่วมกับที่ปรึกษาและคณะกรรมการ
กำกับและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ตัวแทนจากชมรมวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และนายกสมาคมบริษัทบริหาร
สินทรัพย์ไทย รวมทั้งผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลังและกรมสรรพากร เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 เกี่ยวกับความเป็นไปได้และ
แนวทางการจัดตั้งกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารที่ต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (high yield bond) โดยมีความเห็นร่วมกันในหลักการ
ถึงความจำเป็นในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ทวีตข้อความโจมตีนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า
เป็นสาเหตุที่ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงกว่า 1,800 จุดเมื่อคืนนี้
  • รมว.คลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังจะฟื้นตัวจากความเสียหายที่เกิดขึ้น
จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่รัฐสภาญี่ปุ่น ได้อนุมัติงบประมาณพิเศษซึ่งมีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.98 แสน
ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขนาดของมาตรการต่างๆ ที่มีเป้าหมายลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม จากการแพร่ระบาดของ
ไวรัสโควิด-19
  • ญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางที่เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในฤดูร้อนนี้ (มิ.
ย.-ส.ค.) โดยจะเริ่มต้นอนุญาตให้นักธุรกิจที่มาจากออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ไทย และเวียดนาม เดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ไม่เกิน 250 คน
ต่อวัน
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า สิงคโปร์กำลังทยอยยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เพิ่ม
เติม และคาดว่าจะกลับมาเปิดเศรษฐกิจทั้งหมดได้อีกครั้งภายในสิ้นเดือนมิ.ย.
  • ผู้เชี่ยวชาญซึ่งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากจีนมีตลาดขนาดใหญ่ที่ยังคงมีศักยภาพ

มาก รวมทั้งมีช่องว่างให้รัฐบาลดำเนินนโยบายเพิ่มเติมได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ