โกลด์แมน แซคส์ชี้ว่า การขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M3 ของจีนนั้นกำลังปรับตัวสูงขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดในช่วงกลางปี 2546 ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความจำเป็นที่จีนจะต้องปรับเปลี่ยนการใช้นโยบายควบคุมการขยายตัวด้านอุปสงค์ที่สูงเกินไป และควบคุมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ การขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบบ M3 ซึ่งนับรวมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 บวกเงินฝากในสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารนั้น มีจำนวนสูงกว่าปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 นับตั้งแต่กลางปี 2549 เป็นต้นมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสินทรัพย์ด้านการเงินที่เกี่ยวกับตลาดทุน เมื่อเดือนเม.ย. 2550 การขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M3 เพิ่มขึ้น 19.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ที่ระดับ 17.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี นายฮอง เหลียง นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า เราเชื่อว่าความล่าช้าในการควบคุมด้านการเงินจะเพิ่มความผันผวนในเศรษฐกิจมหภาคในระดับที่ใกล้เคียงกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2546-2547 สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า เหลียงกล่าวต่อไปว่า การออกพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น และเงินฝากที่ทะยานขึ้นนั้นเป็นปัจจัยผลักดันหลักที่อยู่เบื้องหลังของความแตกต่างระหว่างการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M3 และ M2 โกลด์แมนแซคส์คาดว่า นโยบายมหภาคจะยังคงรักษาระดับการคุมเข้มไว้อยู่ และคาดว่าจะมีมาตรการคุมเข้มออกมามากกว่านี้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้