ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้ 31.21 แข็งค่าต่อเนื่องตามทิศทางภูมิภาค หลังมีแรงขายดอลล์ มองกรอบสัปดาห์หน้า 31.05-31.50

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 31, 2020 16:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 31.21 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาดเมื่อ เช้าที่ระดับ 31.32 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก และมีแรงเท ขายดอลลาร์

"บาทแข็งค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก ประกอบกับมีแรงเทขายดอลลาร์เพื่อ ซื้อบาทในช่วงสิ้นเดือน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ระหว่าง 31.05-31.50 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 31.2022 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 104.65 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 104.53 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1859 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1864 ดอลลาร์/ยูโร
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือน มิ.ย.63 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน จากการทยอยผ่อน
คลายมาตรการปิดเมืองทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกสินค้า
ที่ไม่รวมทองคำ เครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลง ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐขยาย
ตัวทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวหดตัวสูงต่อเนื่อง จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่
ยังคงมีอยู่
  • ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจ
ไทยในไตรมาส 2/63 จะหดตัวสูงกว่าที่เคยลงไปลึกสุดที่ -12.5% ในไตรมาส 2/41 ซึ่งจะเป็นการติดลบมากที่สุดในประวัติศาสตร์ รับผล
กระทบจากมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ใช้มาตรการเข้มงวดทั้งในและต่างประเทศ ทำให้
กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายภาคส่วนต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) เผยยอดเงินฝากบุคคลธรรมดาธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นกว่า 6 แสน
ล้านบาทในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 เหตุผู้ออมรายย่อยกังวลสถานการณ์โควิด โดยเงินฝากบัญชีออมทรัพย์เพิ่มขึ้นถึง 16% ยอดอยู่ที่
5.1 ล้านล้านบาท ขยับสัดส่วนออมทรัพย์สูงขึ้นเป็น 63% ทั้งที่อัตราดอกเบี้ยแค่ 0.25% และในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะ
ปรับลดลงได้อีก ส่งผลกระทบต่อรายได้ผู้ออมมากขึ้น ทั้งนี้ หากผู้ออมรายย่อยโยกเงินจากบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปไปบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษ
คาดว่าจะทำให้รายได้ของผู้ฝากเงินออมทรัพย์รายย่อยทั้งระบบ จะเพิ่มขึ้นจาก 12.7 พันล้านบาท เป็น 66.2 พันล้านบาทภายในเวลา 1
ปี
  • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน โดยการเสนอขายในตลาดหลัก
ทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระหว่างวันที่ 31 ส.ค. ถึงวันที่ 16 ก.ย.63 ในราคาเสนอขายหุ้นที่ซื้อคืนไม่น้อยกว่าราคาปิดของหุ้น
ธนาคาร เฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายล่าสุดหักด้วยจำนวน 15% ของราคาปิดเฉลี่ยดังกล่าว
  • นายกรัฐมนตรี ระบุยังไม่ได้นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ตามที่มีกระแสข่าว เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการ
ตรวจสอบคุณสมบัติ เพราะยังมีเวลาที่จะทำให้แล้วเสร็จตามกำหนดกลางเดือน ส.ค.
  • รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) จะไม่มีผลกระทบต่อความต่อเนื่องของ
โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่อย่างใด โดยโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้ลงนามกับคู่สัญญาไปเรียบร้อย
แล้ว ทุกอย่างเดินหน้าต่ออย่างเดียวไม่ต้องมีข้อกังวลใดๆ
  • สภาทองคำโลก (WGC) คาดการณ์ว่า ความต้องการทองคำในอินเดียปีนี้อาจทรุดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปี เนื่อง
จากราคาทองคำในประเทศพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่รายได้และกำลังซื้อของประชาชนลดลง
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้นสู่
ระดับ 51.1 จากระดับ 50.9 ในเดือนมิ.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ