นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.24/30 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทอ่อนค่าจากเปิดตลาดในช่วงเช้า หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐมีการรีบาวด์ขึ้นมา ปัจจัยสำคัญช่วงนี้ ตลาดรอผลประชุม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งนอกจากรอฟังประธานเฟดแสดงความเห็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราเงินเฟ้อแล้ว ยังต้องจับตา การให้ความเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในระยะต่อไปด้วย
"วันนี้บาทอ่อนค่าตามการรีบาวด์ของดอลลาร์สหรัฐ...สัปดาห์นี้ต้องรอดูว่าประธานเฟด จะมีความเห็นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ สหรัฐอย่างไรบ้าง รวมถึงเรื่องดอกเบี้ย และเงินเฟ้อ" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทจะอยู่ในกรอบ 31.00 - 31.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.01/03 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.91 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1855/1857 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1821/1865 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,272.34 จุด ลดลง 7.62 จุด (-0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 40,463 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 537.49 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ โดย Economic Intelligence Center (EIC) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 63 เป็นหด
ตัว -7.8% จากเดิมคาดว่าจะหดตัวราว -7.3% เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอลง เพราะยังมีอุปสรรคของการฟื้น
ตัวอีกหลายประการ ท่ามกลางความเสี่ยงสำคัญหลายด้าน โดยเฉพาะความเปราะบางในตลาดแรงงานและการปิดกิจการของธุรกิจที่มีแนว
โน้มจะเพิ่มขึ้น
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ทิศทางค่าเงินบาทอาจมีความผันผวนสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก
ไทย รวมถึงอาจสร้างความท้าทายแก่การดำเนินนโยบายการเงินของทางการไทยในระยะข้างหน้า
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทาง
วิชาการ ข้อมูล และการสนับสนุนทางเทคนิค ยกระดับการใช้ประโยชน์ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และละเอียด (Big data) จากฐานข้อมูลที่
ธปท.เก็บรวบรวม และจากฐานข้อมูลที่ สสช. ทำการสำรวจหรือดำเนินการจัดทำให้คุ้มค่าและสร้างประโยชน์ในวงกว้างยิ่งขึ้น เพื่อช่วยใน
การติดตามและวิเคราะห์โครงสร้างและทิศทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างรอบด้าน
- ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence
Index) ในเดือน ส.ค.63 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลง 21% อยู่ในเกณฑ์ซบเซา โดยปัจจัยที่ฉุดความ
เชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ปัจจัยรองลงมาคือการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศและสถานการณ์
ทางเศรษฐกิจในอเมริกาและยุโรป
- นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดในการสลับตำแหน่งให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายก
รัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ไปนั่งเก้าอี้ รมว.คลัง แล้วโยกย้ายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จาก รมว.อุตสาหกรรม มาเป็น รมว.พลังงาน
แทน ตามที่มีกระแสข่าวออกมา
- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ก.ย.นี้ ขณะที่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ที่ประชุมเฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่นาย
เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวถึงในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อเดือนที่แล้ว
- นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ และดอยซ์แบงก์ คาดการณ์ว่า การทรุดตัวของตลาดหุ้นสหรัฐซึ่งเกิดขึ้นในระยะนี้ ใกล้จะ
สิ้นสุดแล้ว เมื่อพิจารณาจากสถิติ