ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้ 31.67 เคลื่อนไหวตาม Flow ช่วงสิ้นเดือน ให้กรอบพรุ่งนี้ 31.55-31.70

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 30, 2020 16:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.64/65 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทช่วงเย็นอ่อนค่าเล็กน้อยจากเปิดตลาดในตอนเช้า โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 31.60-31.71 บาท/ ดอลลาร์ สำหรบเงินบาทที่อ่อนค่าไปนั้น เป็นผลจาก Flow ของการปิดงบในช่วงสิ้นเดือนรวมทั้งสิ้นไตรมาสด้วย อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ต้อง จับตาราคาทองคำ เพราะหากมีการพุ่งขึ้นเร็ว ก็จะมีผลให้เงินบาทแข็งค่าได้

ส่วนวันนี้มีการดีเบตรอบแรกระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโม แครต ซึ่งผลสำรวจความเห็นของประชาชนพบว่าส่วนใหญ่ให้คะแนนนายไบเดนมากกว่าทรัมป์ ตลาดจึงไม่มี react มากนัก จากก่อนหน้านี้ที่ กังวลว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะได้คะแนนนิยมเพิ่ม

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.55 - 31.70 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 31.6664 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.68 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.68/70 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1710 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1748/1752 ดอลลาร์/ยูโร
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทยเดือน ส.ค.63 ปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน
ตามมูลค่าการส่งออกสินค้า การผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวน้อยลง สำหรับภาคการท่องเที่ยวหดตัวสูงต่อ
เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังคงมีอยู่ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงดุลบัญชีเดิน
สะพัดเกินดุลจากการส่งออกทองคำเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิเล็กน้อยจากด้านหนี้สิน
  • ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า เศรษฐกิจ
ไทยจะติดลบไปจนถึงไตรมาส 1/64 ก่อนจะฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาส 2/64 เนื่องจากไตรมาส 2/63 เศรษฐกิจหดตัวลงไปแรงมาก ส่งผล
ให้ฐานต่ำ ดังนั้นโอกาสที่เศรษฐกิจจะเติบโตเป็นบวกในไตรมาส 2/64 จึงมีโอกาสสูงมาก พร้อมยอมรับว่าการยังไม่มี รมว.คลังคนใหม่
ทำให้หลายโครงการต้องหยุดไป ซึ่งมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวม
  • ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนส.ค.63 อยู่ที่ระดับ 91.43 หดตัว -9.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อ MPI ในเดือนส.ค.63 ได้แก่ กลุ่มยานยนต์ หดตัว -29.67% ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ หดตัว -
22.19% และน้ำตาลทราย หดตัว -75.1% ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือน ส.ค.63 อยู่ที่ 60.69% โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี
นี้ (ม.ค.-ส.ค.) ดัชนี MPI หดตัว -12.45%
  • สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดว่าในสิ้นปี 63 ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้ง
ประมาณ 6.74 ล้านคน ลดลง 83.07% จากปี 62 และจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 336,513 ล้านบาท ลดลง
82.59% จากปี 62 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลในไตรมาส 4/63
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3/63 อยู่ที่ระดับ 60 สูงกว่าที่ผู้ประกอบการได้คาดการณ์ไว้เมื่อไตร
มาส 2/63 ที่ 37 สะท้อนสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา และดีกว่าที่คาดไว้มาก ส่วนในไตรมาส 4/63 พบว่าดัชนี
ความเชื่อมั่นคาดการณ์อยู่ที่ 63 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการคาดหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นกว่าไตรมาสนี้เล็กน้อย และยังคงคาดว่าผล
ประกอบการอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมาก
  • ผลสำรวจความเห็นของประชาชนในสหรัฐ ที่รับชมการดีเบตรอบแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรค
รีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ทางสถานีโทรทัศน์ CNN พบว่า 6 ใน 10 ของผู้รับชมการดีเบตมองว่า นายไบ
เดนอภิปรายได้ดีที่สุด และมีเพียง 28% เท่านั้นที่มองว่าประธานาธิบดีทรัมป์อภิปรายได้ดีที่สุด
  • ประธานธนาคารโลก เปิดเผยว่า เตรียมจะขอให้คณะกรรมการฯ อนุมัติแผนจัดซื้อวัคซีนต้านโรคโควิด-19 วง
เงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศยากจนและประเทศกำลังพัฒนาในการจัดหาวัคซีนที่เพียงพอเมื่อมีการวางจำหน่ายในอีก
ไม่กี่เดือนข้างหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ