นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นเอเชียจะยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในสัปดาห์หน้า เนื่องจากนักลงทุนยังเกรงว่าวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่ออาจส่งผลกระทบต่อสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชีย วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงจากที่ดีดตัวขึ้นใน 4 วันผ่านมา ภายหลังอ่อนตัวตลอดสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนหน้านี้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อในสหรัฐเริ่มลดน้อยลง เมื่อธนาคารกลางสหรัฐได้เข้าแทรกแซงด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ความกังวลดังกล่าวได้หวนกลับมาใหม่ หลังจากที่ประธานของ คันทรี่ไวด์ ไฟแนนเชียล บริษัทปล่อยกู้จำนองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ออกมากล่าวว่าปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐยังไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลาย โดย แองเจโล โมซิโล หัวหน้าฝ่ายบริหารของบริษัทคาดการณ์ว่า ปัญหาในภาคการปล่อยกู้เพื่อซื้อบ้านจะเลวร้ายลงและส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยเขาออกมาแสดงความคิดเห็นขณะที่ แบงค์ ออฟ อเมริกา ประกาศลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการปล่อยกู้จำนอง ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ลูกหนี้ไม่ยอมจ่ายเงินกู้เพื่อซื้อบ้านคืน "มีความเป็นไปได้มากว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย" ซอง เซง วูน นักเศรษฐศาสตร์จาก CIMB GK Research กล่าว "เราไม่สามารถป้องกันผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ แต่เรา (เอเชีย) สามารถรับปัญหาดังกล่าวได้ในระดับที่ดีขึ้นแล้ว" นายซองกล่าวว่า เศรษฐกิจในเอเชียอยู่ในสภาวะที่ดีขึ้นหลังผ่านวิกฤติการณ์ทางการเงินเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยมีงบดุลรัฐบาลอันแข็งแกร่ง มีการประโภคในประเทศจำนวนมาก และมีนโยบายปริวรรตเงินตราต่างประเทศที่ยืดหยุ่นมากขึ้น สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน