ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.32/36 ระหว่างวัน sideway คาดกรอบพรุ่งนี้ 30.20-30.45

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 25, 2020 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.32/36 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 30.31/32 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทยังคง sideway ปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินวันนี้ น่าจะมาจาก flow ที่ยังเข้ามาในตลาด หุ้นไทยส่งผลให้เงินบาทยังแข็งค่า อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นช่วงปลายเดือนที่มักจะมีธุรรกรรมในการซื้อดอลลาร์ เพื่อโอนเงินไปต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าได้บ้างนั้น แต่ภาพรวมแล้วเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.20-30.45 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.15/57 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.50 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1790/1.2020 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1882 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,415.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด (+1.01%) มูลค่าการซื้อขาย 117,120 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,723.66 ลบ.(SET+MAI)
  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เผยว่า การสำรวจความต้องการลงทุน (Bookbuild) ในพันธบัตรเพื่อความ
ยั่งยืน (Sustainability Bond) รุ่นอายุ 15 ปี วงเงิน 20,000 ล้านบาท ในวันที่ 24 พ.ย.63 ประสบความสำเร็จด้วยดี โดย
สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยได้ที่ 1.652% ต่อปี ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนจะถูกนำไปใช้สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม อันเป็นการ
สนับสนุนการโครงการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 64 จะพลิกกลับมาเติบ
โตเป็นบวกที่ 3.3% จากในปีนี้ที่คาดว่าจะหดตัว -6.4% โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ มาจากการส่งออกที่ฟื้นตัว และการลงทุนของทั้งภาครัฐ
และภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น
  • นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ และซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ภาวะกระทิงของราคาทองคำยังไม่สิ้นสุด โดยในปี 2564
ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ แม้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากมีความคืบหน้าในการพัฒนา
วัคซีนต้านโรคโควิด-19 นั้น จะกระตุ้นให้นักลงทุนทยอยขายทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในขณะนี้ก็ตาม
  • "โจ ไบเดน" ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐฯ พร้อมแล้วที่จะกลับมาเป็นผู้นำบนเวทีโลกอีกครั้ง และให้คำมั่นว่า
จะทำงานร่วมกับบรรดาประเทศพันธมิตรของสหรัฐ โดยถ้อยแถลงของนายไบเดน ถือเป็นการพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสหรัฐ หลังจาก
ที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เคยชูนโยบาย "America First"
  • นายกรัฐมนตรีจีน แสดงความเชื่อมั่นว่า พัฒนาการทางเศรษฐกิจของจีนมีโอกาสที่จะกลับสู่ระดับที่เหมาะสมมากขึ้นในปีหน้า

โดยระบุว่า เศรษฐกิจจะกลับมาดีดตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังประสบภาวะถดถอยเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีนี้ โดย

นโยบายระดับมหภาคของจีน จะยังคงมีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และมีความยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ