ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.01 ตลาดรอประชุมเฟดคืนนี้จับตาสัญญาณผ่อนคลายคลายนโยบายการเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 16, 2020 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.01 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.04 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ 30.01-30.06 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่นักลงทุนติดตามคือผลการประชุมธนาคาร กลางสหรัฐ(เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งในส่วนของอัตราดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าจะคงไว้ที่ระดับเดิม แต่คงต้องรอดูว่าจะมีการส่งสัญญาณในการเพิ่ม การซื้อพันธบัตรระยะยาวหรือไม่ ขณะที่การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางญี่ปุ่น มีผลต่อค่าเงินบาทในวงจำกัด

อย่างไรก็ดี ต้องติดตามการเจรจา Brexit รวมทั้งสถานการณ์โควิดของทั่วโลกที่ขณะนี้หลายประเทศเริ่มกลับมาล็อกดาวน์อีก ครั้ง

"คืนนี้ต้องรอดูผลประชุมเฟด ว่าจะส่งสัญญาณ หรือเพิ่มการซื้อพันธบัตรระยะยาวหรือไม่ ส่วนอัตราดอกเบี้ยคงเท่าเดิม ขณะที่ ประชุม BoE และ BOJ คงไม่น่ามีผลต่อค่าเงินบาทมากนัก" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าต่อ ประเมินการเคลื่อนไหวในกรอบ 29.95 - 30.10 บาท/ ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.29 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 103.63 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2200 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2150 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,482.09 จุด เพิ่มขึ้น 4.88 จุด (+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 106,422 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,167.43 ลบ.(SET+MAI)
  • โครงการ "คนละครึ่ง" เฟส 2 ที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนวันนี้เป็นวันแรกเพิ่มเติมอีก 5 ล้านสิทธิ ตั้งแต่เวลา 06.00
น.นั้น มีรายงานว่าเมื่อเวลา 08.06 น. มีผู้ลงทะเบียนครบจำนวน 5 ล้านสิทธิแล้ว แม้มีเหตุขัดข้องจากระบบลงทะเบียนของธนาคาร
กรุงไทย (KTB) และโอเปอร์เรเตอร์มือถือเกิดขัดข้องชั่วคราว
  • ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) จะมีการหารือถึงมาตรการป้องกันโควิด-19
ซึ่งมีหลายมาตรการที่ผ่อนลงไป โดยเฉพาะกรณีการชมคอนเสิร์ตแบบไม่เว้นระยะห่างที่จังหวัดนครราชสีมา หรือการลักลอบเข้าเมืองผิด
กฎหมายที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ประกอบกับชาวต่างประเทศที่เริ่มเดินทางเข้าประเทศมา หลายประเทศเริ่มทดลองวัคซีน ทำให้
ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ใหม่อีกรอบ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเข้มงวดขึ้น หรือผ่อนคลายลง
  • บีโอไอจัดประชุมหารือร่วมกับตัวแทนหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย เพื่อรับฟังข้อเสนอะแนะเกี่ยวกับมาตรการฟื้นฟู
เศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคต่างๆ ของนักลงทุน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้กิจกรรมด้านการลงทุนไม่
สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายและมีความชัดเจนเรื่องวัคซีน ไทยจึงมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนการ
ลงทุนด้วยการแก้ไขปัญหาอุปสรรค และอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างประเทศ
  • รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศมาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่คืนวันอังคารนี้ ทำให้บรรดาร้านค้าจะต้องปิด
ทำการเร็วขึ้น และประชาชนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านตั้งแต่เวลา 20.00 น. จนถึงเวลา 06.00 น.ของวันใหม่ โดยมีเป้าหมาย
ที่จะสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19
  • กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 24 ในเดือนพ.ย. โดยได้รับ
แรงกดดันจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในสหรัฐและจีน นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอาจกลับมาฟื้นตัวได้ช้าลง
  • นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วัน
พรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และอาจจะส่งสัญญาณผ่อน
คลายนโยบายการเงินต่อไป นอกจากนี้ คาดว่า การอนุมัติใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เมื่อไม่นานมานี้ อาจจะทำให้เฟดปรับเพิ่มมุมมอง
เชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2564

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ