เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า เศรษฐกิจยุโรปจะสามารถรับมือกับภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ในสหรัฐได้อย่างแน่นอน โจอาควิน อัลมูเนีย สมาชิกคณะกรรมการกิจการเศรษฐกิจและการเงินอียู เปิดเผยกับรัฐสภายุโรปที่เมืองสตราสเบิร์กว่า "ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของยุโรปมีความแข็งแกร่ง และไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และสามารถฝ่าฝันภาวะไร้เสถียรภาพที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องได้" อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า ผลกระทบจากความวุ่นวายในตลาดอาจจะมีมากกว่าที่รับรู้กันในขณะนี้ และขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะคำนวณถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจที่แท้จริง เนื่องจากผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐและความมั่นใจในตลาดยังคลุมเครือ ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาของตลาดซับไพรม์ในสหรัฐ ก่อให้เกิดภาวะสินเชื่อตึงตัวในตลาดระหว่างธนาคาร นำไปสู่การอัดฉีดสภาพคล่องสู่ระบบของธนาคารกลาง อัลมูเนีย กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอย เนื่องจากวิกฤตการณ์ในตลาดการเงิน จะส่งผลกระทบบ้างต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในยุโรป แต่ถึงอย่างไร ผลกระทบก็จะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากการค้าของยุโรปมีบทบาทสำคัญภายในยุโรปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกมีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากพลังขับเคลื่อนของประเทศเศรษฐกิจดาวรุ่ง ซึ่งได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากวิกฤตการณ์รอบนี้ แม้ว่า เขาจะแสดงทัศนะในแง่บวก แต่เขายอมรับว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปในกลุ่ม 13 ชาติยูโรโซนจะไม่สูงไปกว่าที่คณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ไว้ในเดือนพฤษภาคมสำหรับตลอดทั้งปี 2550 ที่ระดับ 2.6% และทั้งอียูไม่เกิน 2.9% ในการประชุมเดียวกัน ชาร์ลี แม็คครีวี่ คณะกรรมการตลาดภายในอียู รับประกันกับ ส.ส.ว่า ปัญหาที่คล้ายคลึงกันในสหรัฐนั้น มีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้นในยุโรป เนื่องจากตลาดปล่อยกู้จำนองของยุโรปมีการดำเนินงานที่แตกต่างไปจากสหรัฐ ทั้งนี้ เขากล่าวว่า เนื่องจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ กฏระเบียบที่มีมาตรฐานสูงเป็นสิ่งจำเป็นในตลาดการเงินทั่วโลก รวมทั้งเรียกร้องให้มีการวิเคราะห์มูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่มีการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนซึ่งมีความซับซ้อน และกลไกตลาดการชำระเงิน (เคลียร์ริ่ง) ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดันเช่นนี้