ผลการสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจซึ่งเป็นข้อมูลที่บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจและการจ้างงานของญี่ปุ่นในเดือนส.ค.2550 ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี เนื่องจากภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินเยน และราคาน้ำมันปาล์มดิบที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจซึ่งเป็นข้อมูลที่บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจและการจ้างงานของญี่ปุ่นในเดือนส.ค.ปรับตัวลดลงต่ำสุดจากสถิติในเดือนก.ค.ที่ 44.7 จุด มาอยู่ที่ 44.1 จุด และยังเป็นสถิติที่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด อย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 นับตั้งแต่สถิติเดือนมิ.ย.2546 อยู่ที่ระดับ 42.1 จุด
สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจพื้นฐานต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ว่า "สัญญาณความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ชะลอตัวลงได้เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว"
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในครั้งนี้อ้างอิงจากผลสำรวจจากผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งประกอบไปด้วยคนข้บรถแท็กซี่ และพนักงานโรงแรมและร้านอาหารที่ว่า พวกเขาคิดว่าเศรษฐกิจในประเทศจะขยายตัวขึ้นหรือซบเซาลงเมื่อเปรียบเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้านี้ โดย 50% ของผลสำรวจระบุว่า เศรษฐกิจโดยรวมของญี่ปุ่นจะทรงตัว
เจ้าหน้าสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า แม้ว่าอัตราการใช้จ่ายในครัวเรือนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่ราคาน้ำมันดิบและวัตถุดิบต่างๆที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ และค่าเงินยูโร ได้ส่งผลกระทบภาคธุรกิจของญี่ปุ่นอย่างมาก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--