เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อสิ้นสุดเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคในประเทศมากกว่านี้เพื่อให้สมดุลกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
นายจาง เซาเซียง รองประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) กล่าวในการประชุมเศรษฐกิจโลก หรือ เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ที่เมืองต้าเหลียนว่า การส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วเป็นปัจจัยหนุนให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น
นายจางกล่าวว่า จีนต้องดำเนินการในแง่บวกเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ อย่างการขึ้นเงินเดือนและการให้เงินช่วยเหลือกับครอบครัวที่มีรายได้น้อย เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตควรมีพื้นฐานมาจากทั้งการบริโภคในประเทศการส่งออก โดยกว่า 60% ของการส่งออกของจีนมาจากการดำเนินงานของบริษัทต่างชาติในประเทศ
เขาแสดงความคิดเห็นว่า เงินทุนสำรองระหว่างประเทศควรนำไปใช้อย่างมีเหตุผลเหมาะสม และยังเน้นย้ำว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนบริษัทจีนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง นายจางเป็นผู้ริเริ่มแผนการสนับสนุนนักลงทุนสถาบันในประเทศ รวมถึงโครงการนำร่องในเมืองเทียนจินซึ่งอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในตลาดฮ่องกงได้ นับเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าจีนกำลังเดินหน้าไปในทางที่ถูกต้องในการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าแผนการดังกล่าวยังต้องใช้เวลาอีกนานถึงจะบรรลุความสำเร็จ เนื่องจากจีนยังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างทางอุตสาหกรรมและยังคงเป็นศูนย์กลางของการประกอบชิ้นส่วนและการผลิต สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์:
[email protected]