ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.01/03 จับตาปธ.เฟดแถลงต่อสภาคองเกรส คาดกรอบพรุ่งนี้ 29.95-30.05

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 23, 2021 17:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.01/03 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 29.99 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทค่อนข้างจะทรงตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ปัจจัยที่จะมีผลต่อค่าเงินยังไม่มีอะไรมาก อย่างไรก็ดี วันนี้การ เคลื่อนไหวของเงินบาทสวนทางกับสกุลเงินหลักของโลก

ส่วนคืนนี้ ต้องจับตาดูการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งหากมีมุมมองในเชิงบวก ต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ ก็มีแนวโน้มที่ดอลลาร์จะแข็งค่า แต่หากให้มุมมองที่ตรงกันข้าม ดอลลาร์ก็จะอ่อนค่า และบาทก็มีโอกาสย่อลงไปที่ 29.90 บาทได้

"ต้องรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวลคืนนี้ต่อวุฒิสภาสหรัฐ คาดว่าน่าจะพูดในเชิงบวก เพราะตอนนี้ก็มีรัฐบาลใหม่ มีนโย บายกระตุ้นเศรษฐกิจในการอัดฉีดเม็ดเงิน ซึ่งก็น่าจะช่วยให้ดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นมา แต่ถ้าพูดในทิศทางตรงข้าม เช่น ห่วงเศรษฐกิจ หรืออาจ จะต่อ QE ดอลลาร์ก็อาจจะอ่อนค่าได้" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 29.95 - 30.05 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.28/29 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.96 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2148/2149 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2168 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,500.61 จุด เพิ่มขึ้น 22.47 จุด (+1.52%) มูลค่าการซื้อขาย 86,126 ล้าน
นาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,435.59 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุก
พื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปอีก 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 - 31 มี.ค.64 เพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ในประเทศ
  • กระทรวงสาธารณสุข เผยเริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้นในประเทศไทย หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดรายวันลงมาอยู่ใน
ระดับ 2 หลัก (ต่ำกว่า 100 คน) ต่อเนื่องกัน 4 วันแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.
  • กระทรวงพาณิชย์ เผยการส่งออกไทยเดือนม.ค.64 ขยายตัวเล็กน้อย 0.35% ที่มูลค่า 19,706 ล้านดอลลาร์ นำเข้า
หตัว -5.24% ที่มูลค่า 19,908 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 202.38 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนการส่งออกเดือนนี้ คือ
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง และประสิทธิภาพของวัคซีนโค
วิด-19 เริ่มเห็นผลชัดเจน ส่งผลให้เกิดอุปสงค์และความเชื่อมั่นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
  • เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ระบุถึงแนวโน้มการก่อหนี้ของครัวเรือนใน
ระยะถัดไป คาดว่าจะเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนตามมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ รวมถึงกิจกรรมเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้น
ตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปที่จะทำให้ความต้องการสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น
  • คณะกรรมาธิการด้านงบประมาณแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีมติอนุมัติร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้าน
ดอลลาร์ที่นำเสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน หรือที่เรียกว่าร่างกฎหมาย "American Rescue Plan Act of 2021" ซึ่งมีวัตถุ
ประสงค์เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวอย่างน้อย 5% ปีนี้ โดยได้รับ
ปัจจัยหนุนจากนโยบายการคลัง และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมมองว่าการฉีดวัคซีนจะทำให้ชาวอเมริกันสามารถเริ่มกลับมาทำ
กิจกรรมในระบบเศรษฐกิจได้ และคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้
  • คืนนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงต่อสภาคองเกรส โดยจับตามุมมองเกี่ยวกับเงินเฟ้อสในสหรัฐ เพราะ

หากมีโอกาสที่เงินเฟ้อจะกลับขึ้นมาเร็ว อาจทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาด แม้มุมมองของตลาดขณะนี้ จะคาดว่า

เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตลอดทั้งปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ