ประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีย์ของฝรั่งเศส กล่าวว่า ค่าเงินยูโรที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.40 ดอลลาร์ต่อยูโรนั้นนับเป็นปัญหาต่อการแข่งขันของประเทศในกลุ่มทวีปยุโรป
ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ อินเตอร์เนชั่นเนล เฮอรัลด์ ทริบูน และได้มีการเผยแพร่บนเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ว่า "ผมไม่ได้บอกว่าการที่ยูโรแข็งค่าขึ้นในระดับนี้จะเป็นอันตราย แต่แน่นอนว่าค่าเงินยูโรที่พุ่งขึ้นแตะที่ 1.40 ดอลลาร์ต่อยูโรนับเป็นปัญหาอีกประการหนึ่งที่มีผลต่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจของบรรดาประเทศในเขตยูโรโซน"
อย่างไรก็ตาม นายซาร์โกซีย์กล่าวว่า เขาพอใจกับนโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่มีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะคลายความหวั่นวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจในสหรัฐจากวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดเงิน
ขณะเดียวกัน นายซาร์โกซีย์ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของธนาคารกลางยุโรปว่ายังไม่ให้ความสนใจต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศแถบยุโรปมากพอ
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานคำกล่าวของผู้นำฝรั่งเศสว่า ปัญหาในตลาดสินเชื่อที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงทื่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบการกำกับดูแลด้านการลงทุนในตลาดเงิน ซึ่งนายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีกระทรวงคลังของสหรัฐก็เห็นพ้องกับความเคลื่อนไหวดังกล่าวในที่ประชุมที่กรุงปารีสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์:
[email protected]