ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.45/47 โควิดในปท.กดดันบาทอ่อน ตลาดจับตารายงานผลการประชุมเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 18, 2021 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.45/47 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจาก
ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.46/47 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทวันนี้ค่อนข้างผันผวน โดยระหว่างวันขึ้นไปทำ high ที่ระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่ท้ายตลาด จะย่อตัวลงมา อยู่ในระดับเดียวกับที่เปิดตลาดช่วงเช้า ซึ่งคาดว่านักลงทุนยังมีความกังวลสูงต่อสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ

ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากตลาดคาดแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยใน ระดับต่ำนี้ไว้ก่อน เพื่อรอดูทิศทาง แม้ขณะนี้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะเริ่มสูงขึ้นก็ตาม จึงทำให้ระยะนี้ค่าเงินยูโร และเงินปอนด์แข็งค่า

"พรุ่งนี้ ปัจจัยในประเทศเรื่องโควิด ก็ยังเป็นแรงกดดันให้บาทอ่อนค่า รวมทั้งตลาดยังรอรายงานผลการประชุมเฟด ซึ่งคาด ว่าจะทราบในเช้าวันพฤหัส" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35 -31.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.90/95 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.17/18 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2218/2219 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2166 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,566.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.64 จุด (+1.14%) มูลค่าการซื้อขาย 98,215 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,795.15 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการในการแก้ไขกรณีงบประมาณรายจ่ายลงทุน มีจำนวนน้อยกว่าวงเงิน
ส่วนที่ขาดดุลของงบประมาณประจำปี โดยเพิ่มแหล่งเงินลงทุนของประเทศในช่องทางอื่นนอกเหนือจากงบประมาณรายจ่าย ประกอบด้วย
การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership: PPP), กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศ
ไทย (Thailand Future Fund) และ การใช้เงินกู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
  • ครม.เห็นชอบแผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศ ที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ (Big
Rock) ประกอบด้วย โครงการ/การดำเนินงานเพื่อการขับเคลื่อนกิจกรรม Big Rock ทั้ง 62 กิจกรรม รวม 881 โครงการ กรอบวง
เงินรวมทั้งสิ้น 66,502.24 ล้านบาท
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 64 จะขยายตัวอย่างช้า ๆ ที่ 2.0%
โดยมีความเสี่ยงด้านต่ำที่ต้องจับตา ได้แก่ 1) ระยะเวลาในการควบคุมการระบาดระลอกที่ 3 ที่อาจนานกว่าที่เคยคาดไว้ที่ 3 เดือน
และ 2) ความล่าช้าในการฉีดวัคซีน และประสิทธิภาพของวัคซีนที่อาจมีไม่สูงพอ โดยเฉพาะกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 64 ที่โต 1.8% เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ยังไม่
สามารถควบคุมได้ และความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดยังอยู่ในระดับสูง ท่ามกลางอัตราการฉีดวัคซีนของไทยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะส่งผล
กระทบต่อความเชื่อมั่น และพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้การบริโภคภาคเอกชนมีทิศทางขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมิน
  • นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 27-28 เม.ย. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบาย
อัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2565

เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐยังมีโอกาสที่จะขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพภายในสิ้นปี 2565 และเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมาย

ของเฟดที่ระดับ 2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ