ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงช่วงบ่ายวันนี้ (5 ต.ค.) จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่มีกำหนดเผยแพร่ในคืนนี้จะออกมาสดใส ซึ่งจะช่วยคลายความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะชะลอตัว โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในเดือนก.ย.คืนนี้ จะแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีอัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่งในเดือนนี้ เมื่อเทียบกับอัตราจ้างงานที่ลดลง 4,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมไปจนถึงไตรมาสสองของปี 2551 นั้น ยังส่งผลดีต่อเงินดอลลาร์อีกด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรปได้ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ระดับเดิมที่ 4% ท่ามกลางกระแสความหวั่นวิตกว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้เงินยูโรแข็งค่า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของประเทศในเขตทวีปยุโรป สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 1.4133 ดอลลาร์ต่อยูโร ปรับตัวลดลงจากระดับ 1.4138 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 116.46 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 116.44 เยนต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปนั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบาย นักการเมือง และนักธุรกิจต่างพากันวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เงินยูโรที่แข็งค่ารวมถึงผลกระทบด้านการค้าการลงทุน เดวิด มานน์ นักวิเคราะห์จากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า "ตลาดเริ่มปรับลดคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคาดว่าเงินยูโรจะอ่อนค่าลงมาแตะที่ 1.40 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงปลายปีนี้"