ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.86 แนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-32.90 จับตาสถานการณ์โควิดในปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 29, 2021 09:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.86 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากวันพุธที่ ระดับ 32.96 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับแข็งค่า หลังจากดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักอื่นๆ จากผลของการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับใกล้ 0% อีกทั้งเฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน

อย่างไรก็ดี เงินบาทวันนี้ยังมีแนวโน้มทรงตัว โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตายังคงเป็นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 ซึ่งวันนี้ยอดการรายงานทำสถิติสูงสุดทั้งผู้ป่วยรายใหม่ และผู้เสียชีวิต

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.80 - 32.90 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (27 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.29164% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.29760%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.71 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.12 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1840 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1776 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.920 บาท/ดอลลาร์
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะประกาศตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 64-65 ใหม่อีกครั้ง โดยคาดว่า
เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวลดลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 2.3% จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย แต่อย่างไรก็ดี ยังไม่เห็น
สัญญาณว่าจะเศรษฐกิจไทยปีนี้จะหดตัวถึงขั้นติดลบ
  • สศค. เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกรกฎาคม 2564 พบว่าลดลงจากเดือนก่อน
หน้าทุกภูมิภาค เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
  • สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดในประเทศวันนี้ยังทำสถิติใหม่สูงสุดต่อเนื่อง ทั้งยอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิต โดย
เช้านี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานข้อมูลเบื้องต้น มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 17,669 ราย เสียชีวิต 165 ราย
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินภาพรวมเงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์คาดทั้งปีโตแค่ 4.5% ลูกค้าชะลอกู้เงิน ห่วง
เศรษฐกิจยังเสี่ยง
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้กำชับให้สำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เร่งรายงานความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจของหน่วย
งานรัฐวิสาหกิจ (รสก.) ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. และบมจ. อสมท
(MCOT) รวมถึงการควบรวบกิจการระหว่างบมจ. ทีโอที และบมจ. กสท โทรคมนาคม เป็นบมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ให้รับ
ทราบ เพื่อรายงานเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ในการประชุมครั้งหน้า
  • ส.อ.ท.วิตกคลัสเตอร์โรงงานลามต่อเนื่องหากขยายวงถึงกลางเดือน ส.ค. อาจกระทบวงจรการผลิตชะงักงัน ทำให้
กระทบสินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการอาจขาดแคลนในประเทศและกระทบส่งออกได้
  • สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวเชื่อม 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์' ตั้งเป้าเดือนแรก 500
คน สร้างรายได้ 30 ล้านบาท หวังรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เห็นชอบมาตรการ
  • ที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมระบุว่าเฟดจะยังคงซื้อ
พันธบัตรตามมาตรการ QE อย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/
เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) โดย
ระบุว่า เฟดยังคงอยู่ห่างไกลจากการพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับกล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงต้องได้รับการฟื้นฟู
ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ก่อนที่เฟดจะตัดสินใจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้นำมาใช้ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2563 เพื่อรับมือกับผล
กระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.)
หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดยังคงอยู่
ห่างไกลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุมนโยบายการเงิน
  • นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 1 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตร
มาส 2 ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP สหรัฐจะขยายตัว 8.5% ซึ่งเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2526 และพุ่งขึ้น
จากระดับ 6.4% ในไตรมาส 1
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการ

ขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมิ.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วน

บุคคล (PCE) เดือนมิ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ