จีนเผยอัตราการออมภาคครัวเรือนชะลอตัวหลังประชาชนหันไปลงทุนในตลาดหุ้น

ข่าวต่างประเทศ Monday October 15, 2007 15:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จีนเผยอัตราการออมภาคครัวเรือนยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนต่างนำเงินเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นแทนที่จะนำไปฝากธนาคารอย่างที่เคยเป็นมา สถิติจากธนาคารกลางระบุว่า การออมภาคครัวเรือนในจีนเพิ่มเป็น 7.621 แสนล้านหยวน (1.016 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี เทียบกับ 1.72 ล้านล้านหยวนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ผลการสำรวจของธนาคารกลางแสดงให้เห็นว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ 35.6% จากทั้งหมด 20,000 คน ในไตรมาสที่ 3 เห็นว่า การนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมและตลาดหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด ในขณะที่ 50.4% นำเงินไปฝากธนาคาร ซึ่งลดลงจากระดับเมื่อต้นปีที่ 70.4% จู ไฮ่บิน นักวิเคราะห์จาก Essence Securities กล่าวว่า การเปลี่ยนรูปแบบของสินทรัพย์ในระดับครัวเรือนยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าภาวะเงินเฟ้อจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป ในประเทศจีน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทหนึ่งปีมีดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.87% ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อรายปีซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.5% ตามการคาดการณ์ของสถาบัน Chinese Academy of Social Sciences อยู่มาก ผู้ตอบแบบสอบถามมากเป็นประวัติการณ์ที่ 44.3% เชื่อว่า "การลงทุนในตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า" ในขณะที่มีเพียง 25.3% เท่านั้นที่เห็นว่า การฝากเงินในธนาคารคุ้มค่ากว่า แม้ในปีนี้อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นถึง 5 ครั้ง เนื่องจากราคาอาหาร ดัชนีราคาผู้บริโภค และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยเพิ่มแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี ที่ 6.5% ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า ระดับราคาที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สามเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก และกว่า 61.3% เชื่อว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ