ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆ ที่ตลาดปริวรรรตเงินตราออสเตรเลียช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่เคลื่อนไหวผันผวนเมื่อ เป็นผลจากข้อมูลตัวเลขเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตสร้างบ้านที่อ่อนแอ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟดที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะย่ำแย่ "เจ้าหน้าที่สหรัฐมีความกังวลอย่างยิ่งต่อตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐที่อ่อนแอ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจมหภาค และข้อมูลที่อยู่อาศัยวานนี้ก็สร้างความกังวลให้กับตลาดด้วย" จอห์น นูแนน นักวิเคราะห์ประจำธอมสัน ไอเอฟอาร์ กล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 06.24 น. ตามเวลาประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 116.51 เยน/ดอลลาร์ เทียบกับ 116.70 เยน/ดอลลาร์ที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กคืนวานนี้ ส่วนค่าเงินยูโรแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ โดยเคลื่อนไหวที่ 1.4211 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4210 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อคืนวานนี้ แรงเทขายดอลลาร์เกิดขึ้นเมื่อสหรัฐเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตสร้างบ้านเดือนกันยายนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี กระตุ้นให้เทรดเดอร์เชื่อว่ามีโอกาสถึง 56% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในวันที่ 31 ต.ค. นี้ เมื่อเทียบกับวันพุธที่มีโอกาสเพียง 38% นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น หลังจากที่รัฐสภาตุรกีลงมติอนุญาตให้กองทัพโจมตีกลุ่มกบฎเคิร์ดในอิรักได้ก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง อนึ่ง จอห์น คิเรียโคปูลอส นักวิเคราะห์อีกรายกล่าวว่า การเทขายกระหน่ำในตลาดหุ้นอินเดียซึ่งมีผลให้เกิดความวิตกว่าตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียมีมูลค่าเกินจริงนั้น ส่งผลให้เกิดการเข้าเสี่ยงลงทุนและทำแครี่เทรด