คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยรายงานว่า สหภาพยุโรป หรือ อียู แซงหน้าสหรัฐด้านความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ เนื่องจาก 27 ประเทศสมาชิกอียูมีความสามารถในการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มขึ้นกว่า 1.5% เมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่สหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4% อียูมีผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ขยายตัวกว่า 3% อันเป็นผลมาจากความสามารถในการผลิตและอัตราการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว ภาคอุตสาหกรรม การบริการ และการผลิตในยุโรปอยู่ในระดับที่ดีกว่าสหรัฐและญี่ปุ่น "ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าแผนการปฏิรูปเพื่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการสร้างงานเริ่มได้ผลแล้ว" กันเตอร์ เวอร์ฮูเกน รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าว รายงานดังกล่าวระบุว่า แผนการปฏิรูปเศรษฐกิจระดับจุลภาคส่งผลดีที่สุดต่อการขยายความสามารถในการผลิตของยุโรป โดยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน มีการเปิดกว้างทางการค้า และพัฒนาทักษะการทำงาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน