ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ระบุว่า การลงทุนเอกชนในเดือนต.ค.50 กลับมาเป็นขยายตัวเป็นบวกที่ 2.0% จากเดือนก่อนที่ติดลบ 0.5% เนื่องจากมีการขยายตัวของการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเกณฑ์สูง ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่าในปีหน้าการลงทุนเอกชนจะปรับตัวดีขึ้น ธปท.คาดว่าในปี 51 การลงทุนของรัฐและเอกชนปี 51 จะขยายตัวในระดับ 8-9% จาก 0.5-1.5% ในปีนี้ และ การอุปโภคบริโภครัฐและเอกชนในปีหน้าอยู่ที่ 4-5% จาก 2.5-3.5% ในปีนี้ "จากการวิเคราะห์ในเชิงตัวเลขที่เดือนนี้กระดกขึ้น มีแนวโน้มที่การลงทุนจะขยายตัวในเชิงบวกในปีหน้า"นางอมรา กล่าว ภาวะศรษฐกิจโดยรวมในเดือนต.ค.ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยอุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การส่งออกขยายตัวในเกณฑ์สูง ในด้านอุปทาน ผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นจากเดือนก่อน เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี อย่างไรก็ดี ดัชนีผลผลิตพืชผลสำคัญลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะ ข้าวนาปี จากภาวะอุทกภัยที่ทำให้มีการเร่งเก็บเกี่ยวข้าวในปีก่อน ทำให้ฐานการคำนวณสูง ขณะที่ดัชนีราคาพืชผลสำคัญขยายตัว ในอัตราที่ชะลอลง ส่งผลให้ดัชนีรายได้เกษตรกรชะลอลงจากเดือนก่อน สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลและเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับสูงขึ้นบ้างจากผลของ ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวว่า การส่งออกที่ขยายตัวในเกณฑ์สูงเป็นการขยายตัวในทุกหมวดของการส่งออก โดยเฉพาะการเกษตรที่การส่งออกข้าวมีการเร่งตัวขึ้นอย่างมาก เฉพาะเดือนนี้ส่งออกแล้ว 1 ล้านตัน เป็นผลจากประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดีย และเวียดนาม ประสบปัญหาการส่งออกข้าว "10 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกโดยรวมขยายตัวแล้ว 17.8%" นางอมรา กล่าว นางอมรา กล่าวถึง การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 4 ธ.ค.นี้คงจะมีการทบทวนข้อสมมติฐานต่างๆ ทั้งราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ ว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน แต่เศรษฐกิจโลกยังไม่ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อน