ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากวิกฤตการณ์สินเชื่อที่เกิดขึ้นทั่วโลก เนื่องจากเศรษฐกิจเอเชียขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งมีระบบการเงินที่ได้รับการปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับผลกระทบเพียงวงจำกัดจากปัญหาในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม เอดีบีเตือนว่า ภาวะผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกที่เกิดขึ้นอย่างยาวนานอาจฉุดภาวะการซื้อขายในตลาดพันธบัตรของเอเชียให้ซบเซาลง เอดีบีกล่าวในรายงานว่า แม้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าปัญหาเหล่านี้แพร่กระจายเข้าสู่ประเทศในเอเชียตะวันออก แต่เศรษฐกิจเอเชียมีความเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง ขณะที่ตลาดการเงินยังคงมีแนวโน้มไม่แตกต่างจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน "ความผันผวนที่เกิดขึ้นอย่างยาวนานในตลาดการเงินทั่วโลก และความเสี่ยงในตลาดสินเชื่อ ส่งผลต่อเม็ดเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและสถาบันการเงินทั่วโลกออกนโยบายที่เข้มงวดขึ้นในการปล่อยสินเชื่อนั้น อาจส่งผลกระทบต่อตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและผู้บริโภค" นายจอง วา ลี ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการรวมเศรษฐกิจเอเชียของเอดีบีกล่าว รายงานระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 มูลค่าของตลาดพันธบัตรที่ซื้อขายกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่นในเอเชียพุ่งขึ้น 9.9% จากระดับ 2.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2549 นอกจากนี้ เอดีบีกล่าวว่า การปฏิรูปนโยบายและการเปิดเสรีตลาดพันธบัตรในเอเชียตะวันออก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดพันธบัตรเอเชียได้รับการยกอันดับความน่าเชื่อ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน