นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.13 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดที่ระดับ 33.07 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทปิดอ่อนค่า โดยช่วงเช้าบาทแข็งค่า และอ่อนค่าในช่วงบ่าย ส่วนสกุลเงินในภูมิภาคแข็งค่าเล็กน้อย โดยระหว่าง วันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.97-33.19 บาท/ดอลลาร์
"ระหว่างวันบาทผันผวน และเคลื่อนไหวในกรอบกว้าง ตามดอลลาร์สหรัฐฯ ในตลาดโลก" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทของวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.00-33.20 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตาม คืนนี้ คือ ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก Conference Board ของสหรัฐฯ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.00 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 113.82 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1617 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1603 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,635.97 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 79,345 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 39.37 ลบ. (SET+MAI)
- กระทรวงพาณิชย์ เผยการส่งออกของไทย ก.ย.64 มีมูลค่า 23,036 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17.1% ส่วนการนำเข้า มี
มูลค่า 22,426 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 30.3% ส่งผลให้ในเดือนนี้ไทยเกินดุลการค้า 610 ล้านดอลลาร์
- รมว.พาณิชย์ เผยการส่งออกไทยยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง แม้เผชิญปัญหาโควิดแพร่ระบาด และภาคการผลิตได้รับผลกระทบ
จากมาตรการล็อกดาวน์ เป็นเพราะภาพรวมการค้าโลกดีขึ้น, บาทอ่อนค่า, ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ส่งผลดีต่อสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน,
ศักยภาพผู้ส่งออกไทยเข้มแข็ง และแผนส่งเสริมการส่งออกในครึ่งหลังปีนี้ กว่า 130 กิจกรรมทำได้บรรลุเป้าหมาย
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์น เทรด ไตรมาส 3/64 ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในรอบ 2 ไตรมาส เนื่องจากรัฐบาล
ได้ทยอยคลายล็อกมาตรการคุมโควิด และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเพิ่มกำลังซื้อ ซึ่งผู้ประกอบการมองว่า ธุรกิจค้าปลีกน่าจะผ่าน
จุดต่ำสุดแล้ว
- สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย มองเงินเฟ้อพุ่งไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ มาตรการที่จะออกมารับมือกับ
เงินเฟ้อ เช่น การรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว หรือการลังเลที่จะใช้นโยบายการคลังในการดูแลผู้ที่ได้รับผล
กระทบ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าชะลอตัวได้
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ (Analyst Survey) ได้ปรับลดคาดการณ์
GDP ในปี 64 ลงเหลือโต 0.6% จากเดิมคาดโต 1.3% และส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้นภายในปี 65 ซึ่งเห็น
ได้จากเศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวในไตรมาส 4/64 แล้ว
- นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวและเติบโตได้ราว 3% ในปี
65 โดยมองว่าฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนในขณะนี้ แต่อาจจะทบทวน
มุมมองนี้อีกครั้งหลังจากรอดูตัวเลขชี้วัดทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคช่วงปลายปี 64 และภาพรวมการเปิดประเทศหลังจากวัน
ที่ 1 พ.ย.ที่จะถึงนี้
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางมาเลเซีย ได้ประกาศขยายขอบเขตของกลไกการชำระเงิน
สกุลบาทและเงินริงกิตโดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนธ.ค.นี้เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนด้านการค้า และการลงทุนระหว่างสองประเทศ
- บริษัทโมเดิร์น แลนด์ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายล่าสุดของจีนที่ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งสร้างความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ
วิกฤตหนี้สินในวงการอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่เคยเกิดกรณีเดียวกันนี้กับบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดให้หุ้นกลุ่ม
อสังหาริมทรัพย์ร่วงลง
- อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ถึงความเสี่ยงของการเกิดภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อย่างเห็นได้ชัด