โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของประเทศไทยในปีหน้า เนื่องจากการลงทุนชะลอตัวเพราะขาดความเชื่อมั่น โดยนักลงทุนจะรอดูหน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ จึงค่อยตัดสินใจอีกครั้ง "พูดตรงๆ ภาวะเศรษฐกิจในปีนี้จนถึงปีหน้าเกิดจากปัจจัยภายในที่ชะลอตัว...เป็นธรรมดาที่นักลงทุนจะรอดูหน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่ก่อน รวมถึงปัญหาราคาน้ำมัน และปัญหาซับไพร์มด้วย" นายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว ก่อนหน้านี้ ธนาคารโลกประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 4.3% และเพิ่มเป็น 4.6% ในปี 51 แต่ถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในเอเซีย โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ท่ามกลางสภาวะการณ์เช่นนี้ หาก GDP ของไทยยังอยู่ในอัตรา 4.0-4.1% ก็ถือว่าเป็นระดับที่ดีและน่าพอใจแล้ว