แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 เห็นชอบแผนแม่บททางการเงินระดับฐานราก ระยะกลาง 4 ปี (51-54) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยส่งเสริมให้องค์กรการเงินระดับฐานรากเป็นเครื่องมือหลักของชุมชนในการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของชุมชนอย่างมีจรรยาบรรณ พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึกการส่งเสริมการออมและวินัยทางการเงิน, เพิ่มขีดความสามารถในการเข้าสู่แหล่งทุน, สนับสนุนทางการเงินเพื่อเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายให้ชุมชน รวมถึงจัดสวัสดิการชุมชนโดยองค์กรการเงินระดับฐานราก เป็นต้น นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง รายงานในที่ประชุมว่ามีความจำเป็นที่ต้องให้ชุมชนเป็นผู้ควบคุมการบริหารเกี่ยวกับองค์กรการเงินระดับฐานราก เช่น ระดับตำบลและชุมชน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาขีดความสามารถของชุมชนในการพึ่งพาตัวเองทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น ขณะที่ภาครัฐควรทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนมากกว่าเป็นผู้นำ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฯ เห็นว่าการสนับสนุนการพัฒนาระบบการเงินฐานรากซึ่งมีปรัชญาของความเอื้ออาทรเป็นหลักนั้น อาจเกิดความเสียหายได้หากไม่ให้ความสำคัญเรื่องของการรักษาวินัยการเงินควบคู่กันด้วย ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เห็นว่า แม้จะเป็นแนวทางส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการจัดการและขยายผล แต่ยังขาดแผนที่ชัดเจนในการพัฒนาระบบการเงินชุมชนที่เอื้อต่อเศรษฐกิจชุมชนอย่างแท้จริง เช่น กฎเกณฑ์หรือมาตรฐานในการดำเนินงานขององค์กรการเงินฐานรากที่ต้องมีกติการะดับหนึ่งเพื่อความมั่นคง