ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนตลอดปี 2550 จะเติบโตในอัตราคงที่ 11.3% และคาดว่าเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกจะเติบโตสูงกว่า 8% แม้ว่ายังมีความวิตกเรื่องวิกฤตการณ์ซับไพรม์ในสหรัฐและราคาน้ำมันพุ่งขึ้นก็ตาม ธนาคารโลกระบุในรายงานราย 6 เดือนว่าด้วยเศรษฐกิจและสังคมภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ว่า แม้การส่งออกสินค้าจากเอเชียตะวันออกไปยังสหรัฐจะชะลอตัวลง แต่การลงทุนและการบริโภคที่เฟื่องฟูขึ้นในจีนและประเทศอื่นๆ มีส่วนช่วยให้การเติบโตในภูมิภาคนี้ยังคงแข็งแกร่ง และแม้กระทั่งอาจสูงขึ้น สำนักข่าวซินหัวเปิดเผยว่า จีดีพีจีนช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาเติบโตในอัตรา 11.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน งบประมาณการลงทุนที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่หนุนเนื่องจีดีพีจีนในปี 2550 ให้เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐาน อาทิ ตัวเลขกำไรที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และอัตราการปล่อยกู้ที่ค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ดี รายงานชิ้นล่าสุดของธนาคารโลกเตือนว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงจะทดสอบความแข็งแกร่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2551 โดยราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ 90 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2551 จะส่งผลกระทบต่อการสูญเสียรายได้ในเอเชียตะวันออกในอัตรามากกว่า 1% ของจีดีพีเล็กน้อย