คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) กล่าวผ่านเว็บไซต์ว่า รัฐบาลจีนประกาศขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล และเชื้อเพลิงการบินเพิ่มอีก 500 หยวน (67 ดอลลาร์) ต่อตันในวันนี้ เนื่องจากต้นทุนน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้น NDRC กล่าวในแถลงการณ์ว่า NDRC ได้เรียกร้องให้บริษัทไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ป (CNPC) และบริษัทซิโนเปค เพิ่มผลผลิตน้ำมันเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีอุปทานน้ำมันเพียงพอรองรับความต้องการภายในประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลได้เข้าควบคุมราคาน้ำมันในตลาดในประเทศ เพื่อบรรเทาแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ และคุ้มครองผู้บริโภคจากปัญหาราคาพลังงานโลกที่เพิ่มขึ้น "หากราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวอยู่ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บรรดาผู้กลั่นน้ำมันในประเทศจะขาดทุน 1,000 หยวนต่อปริมาณน้ำมันที่ผลิตได้ 1 ตัน และหากราคาน้ำมันดิบพุ่งเป็น 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล พวกเขาจะขาดทุนมากขึ้น" NDRC กล่าว ทั้งนี้ ปัญหาขาดแคลนน้ำมันเกิดขึ้นเนื่องจากผู้กลั่นน้ำมันบางรายได้หยุดการดำเนินงานเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน ขณะที่ผู้ผลิตและดีลเลอร์บางรายได้กักตุนน้ำมัน สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงานว่า ซิโนเปคเตรียมนำเข้าน้ำมันดีเซลเพิ่มเติมในเดือนนี้ หลังจากที่ได้นำเข้าน้ำมันเบนซิน 60,000 ตันในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา และน้ำมันดีเซล 90,000 ตันในเดือนต.ค. นอกจากนี้ ซิโนเปคยังได้ระงับการส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลไปยังต่างประเทศ ส่วน CNPC เตรียมนำเข้าน้ำมันเบนซินและดีเซลอีก 200,000 ตัน ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และยังระงับการส่งออกน้ำมันด้วย นอกจากนี้ NDRC กล่าวว่า จีนอาจปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในรถยนต์และภาคอุตสาหกรรม เพื่อควบคุมอัตราการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว