พาณิชย์ ขอความร่วมมือตรึงราคาไก่เนื้อ-ไข่ไก่ ให้ผู้เลี้ยงเพิ่มผลผลิตสู่ตลาดมากขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 11, 2022 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พาณิชย์ ขอความร่วมมือตรึงราคาไก่เนื้อ-ไข่ไก่ ให้ผู้เลี้ยงเพิ่มผลผลิตสู่ตลาดมากขึ้น

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาไก่เนื้อ ไข่ไก่ และเนื้อหมูที่ปรับขึ้นราคาในขณะนี้ เป็นผลมาจากต้นทุนวัตุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นมาก และจากราคาไก่เนื้อ ที่มีข่าวว่าผู้เลี้ยงได้ปรับขึ้นราคาขายนั้น ล่าสุด กรมฯ ได้ประชุมร่วมกับผู้เลี้ยง ทั้งสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย, บริษัทรายใหญ่ รวมถึงกรมปศุสัตว์ เห็นตรงกันที่จะตรึงราคาขายไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม และราคาขายปลีกชิ้นส่วนไก่สด เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนมิ.ย. 65

โดยไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม กำหนดราคาไว้ที่ กิโลกรัม (กก.) ละ 33.50 บาท, ไก่สด ทั้งรวมและไม่รวมเครื่องใน กก.ละ 60-65 บาท, น่องติดสะโพก/น่อง/สะโพก กก.ละ 60-65 บาท และเนื้ออก กก.ละ 65-70 บาท โดยให้กรมปศุสัตว์และผู้เลี้ยงเร่งเพิ่มการผลิตโดยด่วน ซึ่งการเลี้ยงไก่ใช้เวลา 45 วัน เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดให้มากขึ้น

ส่วนไข่ไก่ ที่มีข่าวว่าผู้เลี้ยงได้ประกาศปรับขึ้นราคาไปแล้วฟองละ 20 สตางค์นั้น ขณะนี้เห็นว่ายังไม่เหมาะสมที่จะปรับขึ้นราคา โดยวันนี้จะประชุมร่วมกับผู้เลี้ยง เพื่อขอความร่วมมือตรึงราคาเช่นกัน ส่วนจะได้หรือไม่ได้คงต้องพิจารณาร่วมกัน หรือต้องการให้รัฐช่วยเหลืออย่างไรบ้าง รัฐก็พร้อมให้ความช่วยเหลือ

สำหรับต้นทุนราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นนั้น นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า กรมฯ ยินดีจะจัดโครงการเชื่อมโยงผู้เลี้ยงรายย่อยกับผู้ผลิตอาหารสัตว์ เพื่อให้ซื้อได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เหมือนที่ผ่านมา มีโครงการจับคู่หมู-ข้าว ระหว่างผู้เลี้ยงหมู และโรงสี เพื่อซื้อข้าวมาทำอาหารสัตว์ รวมถึงยังได้ขออนุมัติงบจากกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) มาช่วยชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้เลี้ยงด้วย

ส่วนราคาเนื้อหมู จากมาตรการที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ออกประกาศให้ผู้เลี้ยง และผู้ค้า ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง และการเก็บสต็อกหมูชำแหละตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.65 ขณะนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างการรวมรวบปริมาณ และจะออกตรวจสอบร่วมกับกรมปศุสัตว์ หากพบผู้ค้ารายใดกักตุน หรือแจ้งไม่ตรง ไม่สอดคล้องกับปริมาณที่แจ้งไว้ จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ ได้ขออนุมัติงบกลางจากรัฐบาลแล้ว เพื่อนำมาดำเนินโครงการต่างๆ ช่วยเหลือประชาชน และชดเชยให้ผู้เลี้ยงปศุสัตว์รายย่อย ทั้งหมู ไก่ และไข่ไก่ โดยเฉพาะการเปิดจุดขายสินค้าราคาถูกที่อาจจะเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 1,500 จุดทั่วประเทศได้ ถ้าสถานีบริการน้ำมันสนับสนุนพื้นที่ให้เปิดเป็นจุดขายได้ จากขณะนี้มีจุดขายเนื้อหมูราคาถูก กก.ละ 150 บาท รวม 667 จุดทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้าถึงจุดขายสินค้าราคาถูกได้อย่างสะดวกมากขึ้น รวมถึงอาจพิจารณาร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตสินค้าราคาประหยัดขายสู่ประชาชนภายใต้โครงการธงฟ้า

อธิบดีกรมการค้าภายใน ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพลังงาน เตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มในประเทศตามราคาตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นว่า สัดส่วนของต้นทุนก๊าซหุงต้มในอาหารปรุงสำเร็จน้อยมาก และไม่น่าจะมีผลทำให้ราคาอาหารปรับขึ้น อยากให้ผู้ค้าเข้าใจสถานการณ์ และช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ไปก่อน

ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำเรื่องขอปรับขึ้นราคาเข้ามาที่กรม และคาดว่า ไม่น่าจะมีใครขอปรับขึ้น เพราะกำลังซื้อคนไทยยังไม่มา โดยเฉพาะมีโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาซ้ำเติม ยิ่งทำให้คนยังระมัดระวังการใช้จ่ายอยู่

ส่วนปาล์มสดที่ราคาแตะกก.ละ 10 บาทในขณะนี้ คาดว่าราคาจะทยอยอ่อนตัวลง และจะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดปรับลดลงสอดคล้องกับราคาปาล์มสดได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ